องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) รายงานว่า จำนวนประชากรเสือโคร่งตามป่าธรรมชาติทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแล้ว 2 เท่า ในการประชุมนานาชาติว่าด้วยการอนุรักษ์ และฟื้นฟูเสือโคร่งและเสือดาว ครั้งที่ 2 ที่นครฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง ของจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) รองผู้อำนวยการสำนักงานตัวแทนองค์การฯ ประจำกรุงปักกิ่ง รายงานว่า จำนวนประชากรเสือโคร่งตามป่าธรรมชาติทั่วโลก เพิ่มขึ้นจาก 3,200 ตัว ในปี 2553 เป็นประมาณ 5,500 ตัวในปี 2567 นี้ โดยหลายประเทศ อาทิ จีน รัสเซีย อินเดีย และเนปาล มีจำนวนประชากรเสือโคร่งป่าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
โดยก่อนหน้านี้ จำนวนประชากรเสือโคร่งป่าทั่วโลก ได้ลดลงอย่างรวดเร็ว และเริ่มฟื้นตัวตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โดยจีนได้ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งที่อยู่อาศัยของเสือโคร่งป่าในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้จำนวนประชากรเสือโคร่งป่าค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เสือโคร่งนับเป็นสัตว์ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหาร และยังเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของระบบนิเวศ โดยจีนให้ความสำคัญอย่างมากกับการปกป้องเสือโคร่งป่า ด้วยการ จัดตั้งอุทยานระดับชาติ คำสั่งห้ามล่าสัตว์ รวมถึงคำสั่งห้ามค้าขาย และใช้กระดูกเสือโคร่งทางการแพทย์โดยเด็ดขาด
นอกจากนั้น ยังจัดตั้งอุทยานแห่งชาติเสือโคร่ง และเสือดาว ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่า 8.75 ล้านไร่ ในมณฑลจี๋หลิน และเฮยหลงเจียงด้วย
สถิติจากอุทยานฯ พบว่ามีเสือโคร่งไซบีเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุด และสัตว์สำคัญของระบบนิเวศป่าไม้ อาศัยอยู่ภายในเขตอุทยานฯ ราว 70 ตัว และมีลูกเสือเกิดใหม่ภายในอุทยานฯ เมื่อปี 2566 จำนวน 20 ตัวด้วย
