วันนี้ (2 ส.ค. 67) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการ จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตลอยน้ำอยู่กลางทะเลบางปู ต.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ตำรวจน้ำ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว
โดยที่ ตำรวจน้ำ และ กู้ภัยบัวหลวง ต้องนั่งเรือสปีดโบตของตำรวจน้ำไปกลางทะเล อ่าวบางปู กว่า 20 นาที จน พบร่างผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในทะเล ลักษณะคว่ำหน้า สวมชุดนักประดาน้ำครบชุดพร้อมถังออกซิเจน เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปจุดที่พบร่าง ก่อนทำการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต นำมาชันสูตรเบื้องต้นที่ท่าเรือองค์การสะพานปลา สมุทรปราการ
เบื้องต้นทราบชื่อ นายสุทธนา วรรณธนาพงศ์ อายุ 47 ปี นักประดาน้ำบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสูญหายขณะดำน้ำทำความสะอาดท้องเรือสินค้า ที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นเกิดมีคลื่นลมและกระแสน้ำแรงกะทันหัน จนผู้เสียชีวิตหลุดออกจากทุ่นเกาะสูญหาย โดยที่ก่อนหน้าที่จะพบร่าง ทางเพื่อร่วมงานมีการตามหาในโลกโซเซียลตลอด จากการตรวจสอบถังอากาศที่ติดตัวผู้เสียชีวิตนั้น ยังพบอากาศอยู่ในถังอีก 70 psi จากที่เต็มถึง 220 psi
สอบถาม นายกมลศักดิ์ ชาโรจน์ อายุ 43 ปี บอกว่า ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ของผู้เสียชีวิต ได้เกิดมีกระแสน้ำแรง และลมแรง ทำให้ตัวหลุดจากทุ่น โดยผู้เสียชีวิตมีหน้าที่เป็นนักประดาน้ำที่เกาะสีชัง หลังจากวันนั้นเพื่อนร่วมงานก็ตามหาเขาตลอด มีการลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ และ พอทราบข่าววันนี้จึงรีบมาดู และรอการยืนยัน ถ้าเห็นเขาตนก็จะจำได้ ตอนนี้คนที่ดำน้ำลงไปด้วยกันกับเขาวันที่เกิดเหตุก็กำลังเดินทางมาจากบางแสน มายืนยันอีกที
ขณะที่ นายสมชัย แสงทอง เพื่อนร่วมงาน บอกว่า ตนกับผู้เสียชีวิตทำงานด้วยกัน วันนั้นเขาลงน้ำก่อนตน ตนลงตามไปติด ๆ แต่ก็แยกกันไป ตนไปท้าย ส่วนเขาไปหัว ตนก็ทำงานของตนไป พอดูอากาศของตัวเองว่าใกล้หมดก็ขึ้นมา พอขึ้นมาเขาก็ยังไม่ขึ้น จึงไปถามเพื่อนร่วมงานอีกคน ว่าเห็นเขาขึ้นมาหรือยัง ก็บอกว่ายังไม่เห็นขึ้นมา วันนั้นกระแสน้ำค่อนข้างแรงด้วย โดยจุดที่เขาอยู่มีบัดดี้ 3 คน ประกบหน้าประกบหลัง ส่วนเขาอยู่ตรงกลาง ตอนแรกได้รับแจ้งจากพี่บนเรือ ว่าเขาขึ้นมาก่อนในรอบแรกเพราะอากาศจะหมด พอขึ้นมาเปลี่ยนถัง เขาก็ลงไปใหม่
พอรอบสองเขาก็ขึ้นมาอีก มาเจอกับตน เพราะอากาศตนหมด ตนก็ขึ้นมาเปลี่ยนถัง แล้วก็ลงไปพร้อมกัน ซึ่งเขาลงก่อน ตนก็เห็นว่าเขาขึ้นไปทางหน้าเรือ ส่วนตนลงไปทางท้ายเรือ พอสักพักอากาศของตนหมด ตนก็ขึ้นมาเปลี่ยนถัง และคนที่ทำงานเป็นบัดดี้กับเขาก็ขึ้นมากันหมดแล้ว เหลือแค่เขาที่ยังไม่ขึ้น เลยถามว่าเขาอยู่ไหน ก็ได้คำตอบว่าไม่เห็น เหมือนกับว่าตอนที่เขาลงไปรอบสุดท้ายเขาไปไม่ถึงเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน ก็เลยไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้
นายสมชัย บอกอีกว่า เขาลงทำงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ปกติทำหน้าที่เป็นต้นเรือ ครั้งนี้คนขาดแล้วมันหาคนยาก เพราะหน้าที่นี้ต้องมีความชำนาญ ต้องเรียนดำน้ำ ต้องเรียนเกี่ยวกับใต้ท้องเรือ จากการสำรวจอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็อยู่ครบหมด ตนคิดว่าเขาตกใจสถานการณ์ใต้น้ำ แล้วก็ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ปกติภารกิจที่จะทำมันลีกประมาณ 12 เมตร ส่วนความลึกที่ปรากฏในเข็มอุปกรณ์ของเขาที่เห็นว่าลงไปถึง 30 เมตร น่าจะเป็นระยะที่เขาหลุดจากทุ่นไปแล้ว วันนั้นจุดที่ทำงานก็ลึกอยู่ที่ 12 เมตร ใช้เวลาทำงาน 2 วัน ซึ่งวันที่เกิดเหตุพยายามค้นหากันแล้ว แต่หาไม่เจอ หาถึงตี 1 ก็ยังหาไม่เจอ
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปู จะเชิญผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตนั้นได้มอบให้มูลนิธิฯนำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป