รวบนักกีฬายิงปืน แอบขายกระสุนปืนผ่านออนไลน์

เช้านี้ที่หมอชิต - โอลิมปิกปีนี้ เราได้เห็นตัวอย่างนักกีฬาดี ๆ ที่ประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กและเยาวชนได้ แต่บางคนเลือกทางผิดชีวิตเปลี่ยน อย่างนักกีฬายิงปืนรายหนึ่งกลายเป็นผู้ต้องหา เพราะลักลอบขายกระสุนปืนให้ลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์

รวบนักกีฬายิงปืน แอบขายกระสุนปืนผ่านออนไลน์
นายธัชชัย หรือ อิฐ บางแม่นาง อดีตวิศวกร และนักกีฬายิงปืน ถูกตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมตัวได้ ขณะกำลังนำถุงผ้าใบใหญ่ ซึ่งข้างในมีกล่องพัสดุ ไปส่งที่ร้านรับ-ส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ในตลาดบางใหญ่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

ทันทีที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่า นำกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ มาส่งพัสดุเพื่อจำหน่าย ตำรวจก็พาตัวไปตรวจค้นหากล่องพัสดุของกลางที่อยู่ในร้าน เจอกระสุนปืนยี่ห้อต่าง ๆ ขนาด 9 มม., ขนาด .22 มม. และ .38 มม. ทั้งหมด 885 นัด แยกแพ็กใส่กล่องเตรียมส่งไปให้ลูกค้าที่สั่งซื้อ

จากการซักถาม นายธัชชัย ให้การภาคเสธ อ้างว่า ตนชื่นชอบกีฬายิงปืนตั้งแต่อายุ 21 ปี จึงฝึกฝนจนชำนาญ และรู้จักคนในวงการยิงปืน วงการจำหน่ายกระสุนปืน และอุปกรณ์บีบีกัน จึงหันมาจำหน่ายกระสุนปืนขนาดต่าง ๆ และอุปกรณ์บีบีกัน เป็นรายได้เสริม

แต่จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจับในคดีลักลอบจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปี 2565 และจากการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ยังพบปืน ขนาด .357 มีทะเบียน แต่ผิดมือซุกซ่อนอยู่ จึงนำของกลางที่ตรวจพบทั้งหมด พร้อมตัวผู้ต้องหาส่งไป สภ.บางใหญ่ ดำเนินคดี

อีกคดีตำรวจจับกุม นายถาวร นักมวย สังกัดค่ายมวยชื่อดัง ถูกตำรวจ บก.ปอท. จับกุมตัว หลังอัพสตอรีลงเพจฯ เฟซบุ๊ก ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 330,000 คน โพสต์ตารางแข่งขันชกมวย พร้อมแนบลิงก์เว็บฯ พนันออนไลน์ เข้าข่ายเป็นการชักชวนคนเล่นพนันออนไลน์ เบื้องต้นสอบสวน นายถาวร ยอมรับว่า มีเจ้าของเว็บฯ พนัน ติดต่อว่าจ้างให้ลงโฆษณาในสตอรี แลกค่าจ้าง 2,500 บาทต่อโพสต์ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ก่อนพาตัวไปดำเนินคดี

อดีตนักมวย ลวงสาวผ่านแอปฯ หาคู่
คดีสุดท้าย นายพุธศุกร์ หรือ แบงค์ ดินแดง อายุ 29 ปี อดีตนักมวย ถูกตำรวจกองปราบฯ ไปจับกุมตัวที่คอนโดมิเนียม ซอยประชาสงเคราะห์ 20 เขตดินแดง กรุงเทพฯ หลังไปเจอผู้เสียหายผ่านแอปฯ หาคู่ แล้วชักชวนลงทุน อ้างว่า ตัวเองเป็นเจ้าของกองทุนมูลค่ากว่า 600,000 บาท แค่ผู้เสียหายนำเงินมาลงทุน จะได้รับเงินปันผล 60,000 บาท หลังถอนเงินต้น

ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ถึงเวลาเงินออก ผู้ต้องหาก็จะอ้างเหตุผลสารพัด แถมบอกต้องโอนเพิ่ม ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนไปเรื่อย ๆ รวม 12 วัน 74 ครั้ง เป็นเงินกว่า 100,000 บาท สุดท้ายฝันสลาย จับได้ว่าเงินที่โอนไปไม่ได้เอาไปลงทุนจริง ๆ จึงแจ้งความดำเนินคดี อีกฝ่ายก็อ้างทันทีว่า เป็นคดีแพ่งยอมความได้ ท้าให้แจ้งความเพราะมีพ่อเป็นตำรวจ ทั้งที่ไม่จริง

สุดท้ายเลยถูกตำรวจจับกุมจริง ๆ ส่งตัวไปดำเนินคดี สน.จรเข้น้อย ตามระเบียบ แถมตอนที่จับยังมีคนที่พักอาศัยในละแวก พากันเข้าไปขอบคุณตำรวจด้วย เพราะที่ผ่านมาผู้ต้องหามักคอยหลอกยืมเงินคนอื่นไปทั่ว แต่ไม่มีคนกล้าแจ้งความ เพราะผู้ต้องหาเป็นนักมวยเก่า มีกลุ่มเพื่อนเยอะ ทำให้ส่วนใหญ่กังวลเรื่องความปลอดภัย