รวบแล้ว หนุ่มสุโขทัย ชิงทองกลางห้างดังเมืองอุดรฯ ได้ทองคำไป 2 เส้น เส้นละ 2 บาท

รวบแล้ว หนุ่มสุโขทัย ชิงทองกลางห้างดังเมืองอุดรฯ ได้ทองคำไป 2 เส้น เส้นละ 2 บาท

View icon 148
วันที่ 10 ส.ค. 2567 | 17.17 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบแล้ว หนุ่มสุโขทัย ชิงทองกลางห้างดังเมืองอุดรฯ ได้ทองคำไป 2 เส้น เส้นละ 2 บาท หลังก่อเหตุหนีไปกบดานที่ขอนแก่น แต่ถูกตามจับได้ของกลางสร้อย 1 เส้น เร่งเค้นสอบติดตามหาสร้อยคอทองคำอีก 1 เส้น

กรณีมีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25-30 ปี สวมแว่นสายตา สวมแมสก์ ใช้ปืนเป็นอสวุธ บุกชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 2 เส้น มูลค่า 1.6 แสนบาท ก่อนร้านปิดเพียง 5 นาที หลบหนีไปถอดเสื้อและปืนปลอมทิ้งหนองน้ำสวนสาธารณะวังมัจฉาหนองบัว ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 500 เมตร ก่อนจะเรียกแก๊ปไปส่งที่สถานีขนส่ง ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี และเข้าไปซื้อรองเท้าที่ร้านทุกอย่าง 20 บาท ไปเปลี่ยนและนำรองเท้าผ้าใบสีดำไปทิ้งในซอยทรงธรรม ถนนทหาร โดยภาพวงจรปิดเห็นใบหน้าชัดเจน เหตุเกิดเวลา  19.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ร้านทองออโรร่า ในห้างที่อุดรธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 10 สิงหาคม 2567 พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังได้ภาพจากกล้องวงจรปิดร้านทุกอย่าง 20 บาท ที่คนร้ายเดินเข้าไปซื้อรองเท้า ซึ่งคนร้ายไม่สวมแมสก์ปิดบังใบหน้า จึงถ่ายใบหน้าผู้ก่อเหตุส่งไปที่กองปราบ ให้ช่วยแสกนใบหน้าผู้ก่อเหตุด้วยระบบ AI จนทราบว่าคนร้ายชื่อว่านายประพันธ์ อายุ 45 ปี ชาวสุโขทัย อาศัยอยู่ที่ จ.ขอนแก่น จึงประสานตำรวจสืบสวนภาค 4 เข้าตรวจสอบ และสามารถจับกุมนายประพันธ์ได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น  พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น และกำลังควบคุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี และติดตามหาสร้อยคอทองคำอีก 1 เส้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้ายหลังเกิดเหตุ โดยตรวจกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จากข้อมูลพบว่าคนร้ายได้เดินมาจากศูนย์การค้ายูดีทาวน์ ข้ามทางรถไฟ มาที่สวนสาสาธารณะวังมัจฉาหนองบัว จากนั้นก็ทิ้งปืนปลอมและเสื้อยืดแขนยาวที่ใส่ก่อเหตุลงในหนองน้ำ แต่ยังไม่แน่ชัดว่าได้ทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ด้วยหรือไม่ จากการไล่เช็คกล้องวงจรปิดของตำรวจ พบว่าคนร้ายเดินไปมาอยู่ริมหนองบัว สักระยะ ก่อนจะซ้อนรถจักรยานยนต์วัยรุ่นชายคนหนึ่ง คาดว่าจะมีการว่าจ้างกันให้ไปส่งที่ซอยสมิตโยธิน

จากนั้นคนร้ายได้เดินไปมา คล้ายหาทางออกไปถนนเส้นหลัก และพบว่าคนร้ายได้ว่าจ้างไรเดอร์ที่มาส่งอาหารภายในซอยสมิตโยธิน ไปส่งที่บริษัทขนส่ง คาดว่าจะเดินทางออกนอกพื้นที่ แต่ไม่มีตั๋วเดินทาง เพราะรถเต็มทุกเที่ยว จากนั้นคนร้ายได้เข้าไปซื้อรองเท้าแตะ ที่ร้านทุกอย่าง 20 ที่อยู่ใกล้กัน และนำรองเท้าผ้าใบที่ใส่ก่อเหตุไปทิ้งไว้ในซอยทรงธรรม ต่อมาคนร้ายได้เดินเท้าไปยังสี่แยกบายพาสขอนแก่น เป็นจุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ โดยยังไม่ทราบว่าคนร้ายเดินทางด้วยวิธีใดในการเดินทางต่อไปยัง จ.ขอนแก่น จนถูกจับกุมได้ในที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง