“ครูนุ๊ก” ตัวจริง ยัน ไม่รู้จักเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถุกอ้างชื่อสวมรอย

เจอแล้ว “ครูนุ๊ก” ตัวจริง ยัน ไม่รู้จักเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกตุ๋นเงินกว่า 2 แสนบาท เชื่อถูกอ้างชื่อสวมรอย แจ้งความไว้แล้ว

วันนี้ (11 ส.ค.67) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภกร เจนอนุศาสตร์สารวัตรใหญ่ สภ.ยี่สาร เพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีชายอายุ 34 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินกว่า 2 แสนบาท ก่อนตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต พร้อมทิ้งจดหมายลาตายถึง กัน จอมพลัง ช่วยนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ

กัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ตนต้องการมาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังทราบเรื่องตนรู้สึกหดหู่และสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะในจดหมายลาตายนั้น มีการระบุถึงชื่อกัน จอมพลัง ซึ่งผู้เสียชีวิตต้องการให้ตนนำตัวคนที่หลอกลวงมารับโทษทางกฎหมายให้ได้ ปกติตนจะไม่รับเคสที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีจำนวนเยอะและเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม ตนอยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์และเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทุกคนคอยระวังตัวมากขึ้น และไม่อยากเห็นใครต้องมาจากโลกไป เพราะฝีมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้อีก                                                                                                                                                                                                                      

ขณะที่ พ.ต.อ.ประเสริฐ กัลยาวุฒิพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนผ่านแอปพลิเคชันชื่อว่า “Ubuy” โดยมิจฉาชีพแฝงตัวมาใช้ชื่อ “ครูนุ๊ก” ส่งข้อความพูดคุยครั้งแรกผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่  23 ก.ค. จนกระทั่งวันที่ 3 ส.ค. ได้ทำการแอดไลน์คุยกัน และเริ่มโอนเงินให้กับครูนุ๊กตั้งแต่วันที่ 4-6 ส.ค. โดยผู้เสียชีวิตทำการโอนเงินไปทั้งหมด 6 บัญชี เป็นยอดเงินทั้งหมด 198,736 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดบัญชีไปแล้วเบื้องต้น ขณะเดียวกันได้ติดต่อไปยังครูนุ๊ก อายุ 30 ปี ที่ผู้เสียชีวิตได้อ้างว่าเป็นผู้หลอกให้ร่วมลงทุนด้วย ทราบว่าเป็นครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม โดยครูนุ๊ก ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ได้รู้จักกับผู้เสียชีวิตเป็นการส่วนตัว ซึ่งตัวเธอนั้นถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างนำชื่อ-นามสกุล ไปใช้หลอกลวงให้ผู้เสียชีวิตร่วมลงทุนด้วย ตอนนี้ตัวเธอเองก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม แล้วเช่นกัน