สนามข่าว 7 สี - คลายข้อสงสัยมาได้ระดับหนึ่ง สำหรับคดีที่ผู้กองหญิง เสียชีวิตพร้อมลูกสาว 2 คน ที่บ้านพักตำรวจ เมื่อผลชันสูตรระบุ เป็นเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
กลายเป็นข้อถกเถียงมากมายในสังคม กรณีการเสียชีวิตของผู้กองหญิง อายุ 60 ปี รองสารวัตรสืบสวน สภ.เมืองชลบุรี พร้อมกับลูกสาว 2 คน ในสภาพน้ำลายฟูมปาก เล็บและปากเขียวคล้ำ ที่เกิดเหตุพบขวดน้ำยาขจัดท่อน้ำอุดตัน ต้องสงสัยว่า อาจเป็นต้นเหตุสลด
ตอนแรกมีการตั้งประเด็นข้อสงสัย ต่าง ๆ นานา ทั้งเรื่องการฆ่าตัวตาย กินสารพิษเข้าไป ประเด็นที่มีคนจงใจทำให้เสียชีวิตยกครัว หรือเป็นเพราะน้ำยาขจัดท่อน้ำอุดตัน และโซดาไฟกันแน่
เริ่มจากประเด็นเรื่องการฆ่าตัวตาย เพื่อนสนิทของผู้กองหญิง บอกว่า ไม่มีปมเหตุที่ต้องคิดสั้น เพราะผู้กองเป็นคนรักลูกมาก และกำลังจะเกษียณอายุราชการ
ประเด็นที่ 2 เป็นประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตในตัว ข้าวฟ่าง เพื่อนสนิทลูกสาวคนโต ที่ปรากฏในภาพวงจรปิด ข้าวฟ่างเป็นคนไปซื้อน้ำยาขจัดท่ออุดตัน ที่ร้านขายของวัสดุก่อสร้างมาให้แม่ก็คือ ผู้กองหญิงในวันแม่ อีกทั้งตอนที่ซื้อ พนักงานขาย ๆ ได้เตือนแล้วว่า ห้ามใช้ร่วมกับโซดาไฟ
ส่วนข้อสงสัยสุดท้าย ข้อ 3 ที่เป็นหัวใจหลักของคดีนี้ที่เราบอกก่อนหน้านี้ ว่ามีการถกเถียงในโซเชียลมีเดีย จนติดอันดับเทรนด์ X #โซดาไฟ มีการขยายความที่คาใจ โซดาไฟทำให้ตายได้จริงหรือไม่
ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุโซดาไฟ เป็นวัตถุอันตราย มีฤทธิ์กัดกร่อน เป็นด่างเข้มข้นเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นกรด จึงห้ามใช้ร่วมกันอย่างเด็ดขาด เพราะหากเกิดกลุ่มควันเข้าหน้าเข้าตาเป็นแผลไหม้ ใครที่สูดดมก๊าซนี้เข้าไปอย่างเต็มที่ ถึงหมดสติ ช็อก เสียชีวิตได้
สุดท้ายผลชันสูตร 3 แม่ลูก เบื้องต้นไม่พบบาดแผล ไม่พบรอยไหม้ตามผิวหนังของผู้ตาย ไม่มีแผลไหม้ที่ปาก จึงสันนิษฐานว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
ส่วนศพของผู้กองหญิงและลูกสาว ครอบครัวจะไปรับศพนิติเวช โรงพยาบาลชลบุรี ในวันนี้ (14 ส.ค.)