นายเศรษฐา ทวีสิน เปิดใจ หลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ปัดถูกวางยาทางการเมือง

นายเศรษฐา ทวีสิน  เปิดใจ หลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ปัดถูกวางยาทางการเมือง เสียใจถูกตัดสินไม่มีจริยธรรม ที่ผ่านมาทำงานเต็มที่ 

วันนี้ (14 ส.ค.67)  หลังศาลรัฐธรรมนูญ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์  มีพฤติกรรมฝ่าฝืนไม่ ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่วน ครม. รักษาการในหน้าที่ต่อไป

นายเศรษฐา ทวีสิน ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ผมเสียใจตรงที่ว่า ผมจะถูกออกไปว่าเป็นนายกฯที่ไม่มีจริยธรรม ซึ่งผมก็ยืนยันนะครับ ในตัวตนของผม ผมคิดว่าผมไม่ใช่บุคคลแบบนั้น อย่างที่บอกครับ ท่านตัดสินมาแล้ว เขาเป็นตุลาการที่มีความรู้ความสามารถ

ขอบคุณตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ให้โอกาสทุกฝ่ายชี้แจง ตนเคารพในคำวินิจฉัย โดยตลอดเวลาเกือบ 1 ปี พยายามทำทุกอย่างให้ทุกอย่าง ทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต และยืนยันไม่ได้ทำตัวขัดแย้ง

เมื่อถามว่าคาดคิดไว้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ผลออกได้ทั้งซ้ายและขวา โดยไม่ได้คาดเดาผลที่จะออกมา ตนเสียใจเพราะจะถูกว่าเป็นนายกฯไม่มีจริยธรรม ซึ่งตนไม่ใช่คนแบบนั้น ซึ่งบ้านเมืองมีคนเก่งอีกหลายท่าน โดยนายภูมิธรรมกำลังเดินทางกลับมาจากคาซัคสถานอยู่ หากไม่ทันยังมีรองสุริยะ ท่านผ่านมาหลายรัฐบาลแล้วก็มีประสบการณ์ดีอยู่แล้ว

“ยืนยันผมไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่เชื่อมีใครวางยา โดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงตัดสินตามข้อมูล ไม่เกี่ยวว่าเข็ดกับการเมือง”

เมื่อถามว่าได้บทเรียนราคาแพง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่อยากมองในแง่ลบ อย่าไปกล่าวล่วงว่าใครวางยาดีกว่า ขอให้ดำเนินต่อไปในการสรรหานายกฯ คนต่อไป

ทุกคนมีความหวังดีด้วยกัน ทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ผมขอยืนยันตรงนี้รับคำตัดสิน ยืนยันตลอดระยะเวลาที่ทำงานมาในตึกเนี่ยในตำแหน่งหน้าที่นี้ ทำอย่างเต็มที่ด้วยความบริสุทธิ์ไม่ได้มีปัญหากับใครเป็นการส่วนตัว ไม่ได้ขัดแย้งกับใครเป็นการส่วนตัว

จะเป็นพรรคไหนหรือพรรคเพื่อไทย ถ้าเกิดเปลี่ยนผู้นำแล้ว เขามีสิทธิเปลี่ยนแปลงนโยบายได้ตามที่เห็นสมควร อย่างที่บอกอยากให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า อยากให้ประชาชนอยู่ดี แต่วิธีการไปถึงจุดนั้นก็มีหลายวิธี ต้องยอมรับเราหมดหน้าที่ไปแล้วบ่ายเวลา 15.00 น.

ถนนมีสองทางแต่เขาจะอยากให้ผมช่วยต่อไหมเขาอาจจะเปลี่ยนผ่านคนรุ่นใหม่เข้ามา ผมก็ยอมรับตรงนี้ ก็เป็นห่วงการบริหารจัดการของประเทศ เป็นห่วงตลอด ปัญหายาเสพติดก็เป็นห่วงอยู่ 

จุดสูงสุดของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป มีโอกาสได้มาดูแลบ้านเมือง มีส่วนในการผลักดันชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องให้ดีขึ้นก็ถือว่าสูงสุด