โครงการเงินดิจิทัลฯ จะไปต่อหรือพอแค่นี้

View icon 138
วันที่ 14 ส.ค. 2567 | 20.02 น.
ข่าวภาคค่ำ
แชร์
ข่าวภาคค่ำ - ส่วนประเด็นที่หลายคนจับตา คือ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ด้านเลขาพรรคเพื่อนไทย บอกไม่สะดุด สวนทางกับกระทรวงการคลัง บอกน่าจะมีปัญหา

โครงการเงินดิจิทัลฯ จะไปต่อหรือพอแค่นี้
โดย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ยืนยันเดินหน้านโยบายเรือธง อย่างโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ขัดข้อง โดยจะต้องหารือกันอีกครั้ง และได้ให้กำลังใจนายเศรษฐา ว่า พรรคเพื่อไทย ทำงานอย่างเต็มที่ และพร้อมยืนหยัดที่จะสู้เพื่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดีขึ้น

ก.คลัง รับนโยบาย "ดิจิทัลวอลเล็ต" สะดุด
สวนทางกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า การนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง จะส่งผลผลกระทบกับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล รวมถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องสะดุดลง แม้จะเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล

นายกฯ พ้นเก้าอี้ กระทบเศรษฐกิจระยะสั้น
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ มองว่า หลังจากหัวเรือใหญ่ของรัฐบาลพ้นจากตำแหน่ง แน่นอนว่า ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเสถียรภาพรัฐบาลในระยะสั้น หลายฝ่ายกำลังจับตามอง การบริหารเศรษฐกิจไทยหลังจากนี้ ว่าจะไปในทิศทางไหน

ส่วนภาคเอกชนไทย เชื่อว่า จะไม่กระทบกับสถานการณ์การลงทุนไทยมากนัก มองว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้าใจเหตุการเมืองที่เกิดขึ้น เพราะทั่วโลกก็มีเหตุการณ์แบบนี้

สื่อฯ ต่างชาติจับตา หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งปลดนายกฯ เศรษฐา
ขณะที่สื่อต่างชาติ เฝ้าจับตาหลังนายกรัฐมนตรี "เศรษฐา ทวีสิน" ซึ่งนับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของไทยในรอบ 16 ปี ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินปลดออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้การเมืองของไทย เข้าสู่ภาวะไม่แน่นอน จะเกิดการแย่งชิงตำแหน่งกัน คาดว่า "แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ แต่ล่าสุดก็เคาะออกมาเป็นชื่อของ นายชัยเกษม นิติสิริ 

ทั้งนี้ คำตัดสินของศาล ทำให้บรรดานักวิเคราะห์ทางการเมืองตกตะลึง โดยก่อนหน้านี้ เชื่อว่าศาลจะเข้าข้างนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการซ้ำเติมความปั่นป่วนต่อภูมิทัศน์ทางการเมืองของไทย

ขณะที่ความเคลื่อนไหวสำคัญในตลาดหลักทรัพย์ พบหุ้นของแสนสิริร่วงลง 5% สวนทางกับหุ้นของ STEC ของตระกูลชาญวีรกูลพุ่งขึ้น 15%