ช่วยนักศึกษา ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก

View icon 69
วันที่ 22 ส.ค. 2567 | 06.18 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ต้องบอกว่าช่วงนี้แก๊งคอลเซนเตอร์กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง มีนักศึกษาวิศวกรรมและนักศึกษาแพทย์ ที่จังหวัดสกลนคร และเชียงใหม่ เสียรู้สูญเงินนับล้านบาท

ช่วยนักศึกษา ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอก
ภาพขณะชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด เข้าช่วยเหลือนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง ปี 1 คณะวิศวกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ในห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมืองสกลนคร หลังถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โทรศัพท์บังคับให้ไปเช่าโรงแรม แล้วส่งรูปขณะมัดมือมัดเท้าตัวเองส่งให้พ่อและแม่ บอกว่าถูกคนร้ายเรียกค่าไถ่ ให้โอนเงินมาไถ่ตัว 1 ล้านบาท

คดีนี้สืบเนื่องจาก วันที่ 19 สิงหาคม ผู้ปกครองนักศึกษาคนดัง กล่าวเข้าแจ้งความที่ สภ.ขมิ้น ว่าลูกชายหายตัวไปจากห้องพัก จนตำรวจชุดสืบสวนแกะรอยจากบัตรประชาชนที่ไปเปิดห้องพักจนไปพบตัวดังกล่าว

โดยผู้เสียหายถูกแก๊งคอลเซนเตอร์โทรศัพท์อ้างเป็นตำรวจ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย บอกว่าผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด และฟอกเงิน บังคับให้โอนเงินให้ และขู่ห้ามไปบอกคนอื่นจะถูกดำเนินคดีอาญาจำคุก 3-10 ปี ด้วยความกลัว ผู้เสียหายจึงโกหกขอเงินพ่อแม่ โอนให้ไป 35,000 บาท จากนั้นมิจฉาชีพโทรมาอ้างอีกว่า เงินถูกอายัดจึงโอนเงินให้อีก 5 ครั้ง 5 บัญชี รวม 271,042 บาท

แต่คนร้ายยังไม่พอใจ บังคับให้ให้ไปเปิดห้องพัก  แล้วถ่ายรูปขณะถูกมัดมือมัดเท้าส่งไปให้พ่อแม่ แล้วโทรศัพท์มาข่มขู่ หากไม่โอนจะตัดนิ้วมือทิ้ง จึงได้นัดหมายจ่ายเงินให้อีก 1 ล้านบาท (21 ส.ค.) แต่ตำรวจไปช่วยเหลือได้ทัน ก่อนจะสอบขยายผลตามจับกุมแก๊งนี้มาดำเนินคดีต่อไป

นักศึกษาแพทย์ เสียรู้แก๊งคอลเซนเตอร์
ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่  นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ก็ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเช่นกัน  คราวนี้โดยอ้างว่าเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือค่ายหนึ่ง บอกว่ามีคนนำข้อมูลส่วนตัวผู้เสียหายไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และนำไปใช้ผิดกฎหมาย ถูกออกหมายจับ ด้วยความกลัว ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กว่า 1 ล้านบาท แต่มิจฉาชีพยังไม่หยุดเท่านี้ พยายามบอกผู้เสียหายไปเช่าโรงแรม แล้วจัดฉากว่าถูกเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 200,000 บาท แต่ผู้เสียหายเอะใจ จึงบอกผู้ปกครอง พาเข้าแจ้งความที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จึงรู้ว่าโดนหลอก

มีรายงานว่าช่วงปลาย เดือนกรกฎาคม 67  มีแก๊งคอลเซนเตอร์ โทรหลอกนักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะสูญเงินกว่า 4 ล้านบาท