ยื่นยุบ เพื่อไทย ปม ทักษิณ ครอบงำ

View icon 107
วันที่ 26 ส.ค. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เช้าวันนี้ นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี และอดีตนายกฯ 2 ท่าน ทั้ง นายทักษิณ และ นายเศรษฐา ต่างเดินทางเข้าตึกชินวัตร 3 คาดว่า หารือส่งมอบงาน และสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนกรณีนักร้องนิรนามยื่นยุบพรรคเพื่อไทย กรณี นายทักษิณ ครอบงำพรรค พรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธข่าวยืนยัน "ทักษิณ" ไม่เคยมาครอบงำพรรค

แพทองธาร-ทักษิณ-เศรษฐา เข้าตึกชินวัตร 3
ช่วงเช้าวันนี้ นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่อาคารชินวัตร 3 โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากมีผู้ร้องนิรนามไปร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย เพียงแต่หันมาโบกมือทักทายสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่งคาดว่า น่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ นอกจากนี้ ยังมี นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังอาคารชินวัตร 3 น่าจะมาพูดคุยถึงการส่งมอบงาน ให้กับ นางสาวแพทองธาร

จากนั้น เวลา 11.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าอาคารชินวัตร 3 ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมยกมือทักทายช่างภาพและสื่อมวลชน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์ นายทักษิณ ตอบยิ้ม ๆ ว่า "พูดไปเยอะแล้ว" พร้อมยอมรับว่า วันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) มีกำหนดการจะลงไปเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ยื่นยุบ เพื่อไทย ปม ทักษิณ ครอบงำ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้ร้อง ซึ่งสงวนชื่อและนามสกุล ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้มีคำสั่ง ยุบพรรคเพื่อไทย กรณีพรรคเพื่อไทยยินยอมให้บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกชี้นำกิจกรรมของพรรค ในลักษณะที่ทำให้สมาชิก และกรรมการบริหารพรรคขาดความอิสระ อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 และมาตรา 29 อันทำให้การใช้เสรีภาพในการจัดตั้งพรรคการเมืองไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ทักษิณ ไม่ใส่ใจ เมินถูกยื่นยุบ เพื่อไทย
ซึ่งเรื่องนี้ นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ก่อนเดินทางกลับ ถึงกรณีมีบุคคลไม่ประสงค์ออกนามยื่นร้องต่อ กกต. ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย ว่า "เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ใส่ใจ" จากนั้นได้ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับทันที เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ที่ได้เดินทางกลับ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

เพื่อไทย ปัด ทักษิณ ครอบงำพรรค
เรื่องคำร้องว่า นายทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทยนั้น นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ชี้แจงว่า การครอบงำพรรคจะต้องเป็นเรื่องของการสั่งการให้พรรคเพื่อไทยปฏิบัติตามในเรื่องต่าง ๆ เช่น การเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน นายเศรษฐา แต่ที่ผ่านมาปรากฏข่าวว่า นายทักษิณ ต้องการให้ นายชัยเกษม นิติสิริ นั่งเก้าอี้นายกฯ แต่ท้ายที่สุดที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีมติเลือก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ หาก นายทักษิณ ครอบงำได้ วันนี้ นายชัยเกษม ก็ต้องเป็นนายกฯ ไปแล้ว

วันนี้ไม่เห็น อดีตนายกฯ ทักษิณ มาสั่งอะไรในพรรค ท่านมานั่งในที่ประชุมพรรคทุกครั้งก็ไม่เห็นว่ามาสั่งอะไร แต่ท่านจะให้สัมภาษณ์อย่างไรก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน ในฐานะที่เป็นอดีตนายกฯ แต่พรรคจะทำตามหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยไม่มีความกังวล เพราะ นายทักษิณ ไม่เคยมาครอบงำ

เด็จพี่ ซัดฝ่ายแค้นใช้วิชามาร ยื่นยุบเพื่อไทย
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ค้านไม่ห่วง ห่วงแต่ฝ่ายแค้น กรณีมีข่าวว่ามีบุคคลลึกลับ ยื่นเรื่องร้อง กกต. ขอให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิ์ทางการเมืองนายกฯ แพทองธาร ฐานยอมให้อดีตนายกฯ ทักษิณ ครอบงำพรรค มองว่าการทำหน้าที่ในการค้าน หรือตรวจสอบรัฐบาลใหม่ที่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่ถ้าการกระทำในลักษณะอีแอบทางการเมือง ทำตัวลึกลับ ยื่นร้องแบบไร้สาระ ทำตัวเป็นฝ่ายแค้น เล่นไม่เลิก เพียงหวังจ้องจะล้มรัฐบาลเพื่อไทยที่เป็นแกนนำ เป็นสิ่งที่น่าสมควรประณามว่า พวกที่อยากมีอำนาจ พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ตัวเองและพวกพ้องมีอำนาจโดยไม่สนวิธีการ ไม่สนโลก ใช้วิชามารทางการเมืองและทางกฎหมาย มาทำลายคู่แข่ง แบบเล่นไม่เลิก อยากเตือนสติไอ้โม่งบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังนักร้อง ว่า หยุดทำบาปทำกรรมกับประชาชนและประเทศชาติได้แล้ว รอให้มีรัฐบาลใหม่ นายกฯ ใหม่บริหารบ้านเมือง ไม่เป็นไปตามนโยบาย ค่อยออกมาตรวจสอบ ยื่นเรื่องร้องเรียนเอาผิดก็คงไม่มีใครว่า

เรืองไกร ยื่นป.ป.ช.สอบ แพทองธาร
ไม่ใช่แค่เรื่องยื่นยุบพรรคเพื่อไทย เพราะเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ นางสาวแพทองธาร ในฐานะที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, รองประประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และ ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งควรถือเป็นเจ้าพนักงานของรัฐว่า มีการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด จากกรณีพาครอบครัวเที่ยวข่าวใหญ่ที่รีสอร์ตของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และมีการจัดงานเลี้ยง ตีกอล์ฟร่วมกันโดยมีรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่รัฐร่วมด้วยหลายคน และตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังเป็นกรรมการทั้ง 3 แห่ง อยู่หรือไม่

ทั้งนี้มีรายงานว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายเศรษฐา ทวีสิน ให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม หลังจากนั้นเพียงแค่วันเดียว คือ วันที่ 15 สิงหาคม นางสาวแพทองธาร ได้ลาออกจากกรรมการบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยรวม 21 แห่งแล้ว

ไพบูลย์ ยัน เรืองไกร ยื่นสอบ แพทองธาร ไม่เกี่ยว
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวของ นายเรืองไกร แม้จะเป็นสมาชิกพรรค แต่ไม่ใช่ไปยื่นร้องในนามพรรค ดังนั้นพรรคจึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว ยืนยันไม่กระทบสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคไม่ได้เกี่ยวข้อง และสังคมควรตระหนักว่าเขาเป็นสมาชิก ไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค

เทพไท เปรียบ แพทองธาร เหมือนตาบอดถูก ทักษิณ จูง
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "อุ๊งอิ๊ง" เหมือนคนตาบอด ต้องใช้ "ทักษิณ" จูงเดิน โดยระบุว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพล เรื่อง "บทบาทอดีตนายกฯ ทักษิณ ในรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง" เมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนถึงความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะบริหารประเทศโดยปราศจาก นายทักษิณ ชินวัตร พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.01 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย และร้อยละ 15.42 ไม่น่าเป็นไปได้

ซึ่งผลการสำรวจครั้งนี้ จะเห็นได้ชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่า อุ๊งอิ๊ง จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ โดยไม่มี นายทักษิณ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงช่วยเหลือ นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีก็จริง แต่ต้องมีพี่เลี้ยงคอยกำกับช่วยเหลือ คือ นายทักษิณ ผู้เป็นพ่อ สถานะของอุ๊งอิ๊งในตอนนี้ เปรียบเหมือนผู้พิการทางสายตา หรือคนตาบอดที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีพี่เลี้ยงคอยพยุงหรือคอยจูง มิฉะนั้นจะเดินไปไหนไม่ได้

ไพศาล ชี้ แพทองธาร เป็นนายกฯ 7 วัน โดน 5 คดี
ขณะที่ นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เพียง 7 วัน นับแต่มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกฯ ขณะนี้มีการร้องให้ดำเนินคดี เป็นทางการแล้ว 2 เรื่อง 1.นายเรืองไกร ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นประธานเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ว่ามีการใช้จ่ายเงินจำนวนมาก 2.ผู้ไม่ปรากฏนาม ร้องต่อ กกต. ให้ยุบพรรคเพื่อไทย ทั้ง 2 เรื่องนี้ หวังผลต่อการยุบพรรคเพื่อไทย และมอบคุกมอบตารางแก่นายกฯ อุ๊งอิ๊ง รวมถึงถอดถอนออกจากตำแหน่ง และถูกตัดสิทธิทางการเมืองด้วย

และมีอีก 3 คดี ที่ปรากฏข่าวว่า กำลังจะดำเนินการ แต่ยังไม่ปรากฏตัวเจ้าภาพ คือ 1.การร้องให้ยุบพรรคร่วมรัฐบาลที่ไปประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ในข้อหาว่า ยินยอมให้บุคคลภายนอกครอบงำพรรค 2.การร้องขอให้ถอดถอน นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ในข้อหาว่าขาดจริตธรรมอย่างร้ายแรงในกรณีการสอบเมื่อครั้งเป็นนิสิตจุฬาฯ โดยหาว่าทุจริตในการสอบ และ 3.กรณีปลุกผียายเนื่อม มากล่าวหาว่า นายกฯ อุ๊งอิ๊ง โกงที่ธรณีสงฆ์ของวัด เป็นการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง นี่แค่ 7 วัน ก็ปรากฏโฉมคดีถึง 5 เรื่องแล้ว นี่คือความหฤโหดของการเมือง ยุคอนุรักษ์ปลาหมอคางดำ