ทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานกว่า 400,000 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 235 ล้านบาท พร้อมสกัดแพลตฟอร์มนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ไม่ได้
วันนี้ (29 ส.ค. 67) นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) เผยภายหลังเป็นประธานการทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานว่า กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการคุ้มครองประชาชนให้ปลอดภัยจากการใช้สินค้าที่ได้มาตรฐาน โดยการตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าในท้องตลาดและทางออนไลน์อย่างเข้มงวด หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
โดยการทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานในครั้งนี้ เป็นการนำของกลางที่คดีถึงที่สุดแล้ว ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ได้ยึดอายัดสินค้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั้งที่จำหน่ายในท้องตลาดและทางออนไลน์ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2566 ถึงวันที่ 23 สิงหาคม 2567 จำนวน 409,705 ชิ้น มูลค่ารวม 235,328,163 บาท ได้แก่ ของ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยางรถยนต์ สุขภัณฑ์ ภาชนะและเครื่องใช้พลาสติก ภาชนะเมลามีน ถุงมือยางทางการแพทย์ ท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ หมวกกันน็อก และเครื่องดับเพลิงยกหิ้วชนิดผงเคมีแห้ง เป็นต้น
ด้าน นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า สมอ. ได้ดำเนินการกวาดล้างสินค้าด้อยคุณภาพตามภารกิจ Quick win ของ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ทั้งที่จำหน่ายอยู่ในท้องตลาดและช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามชาติที่เข้ามาบุกตลาดสินค้าไทย นำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลกระทบกับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจของไทย สมอ. จึงออกมาตรการสกัดกั้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น ดังนี้
1. ออกมาตรฐานบังคับเพิ่มอีก 58 มาตรฐาน เพื่อควบคุมการนำเข้าสินค้าไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าควบคุมจำนวน 144 รายการ มีพิกัดศุลกากร 1,985 พิกัด
2. ปรับลดเกณฑ์ขั้นต่ำของจำนวนการนำเข้าสินค้าที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการจำหน่าย
3. ร่วมกับกรมศุลกากรพิจารณาแก้ไขปัญหาอุปสรรคจากการบังคับใช้ พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ในเขต Free zone
4. นำระบบ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจควบคุมการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยสกัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานก่อนถึงมือผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จะเร่งชี้แจงกับตัวแทนบริษัทนำเข้า-ส่งออก และบริษัทชิปปิ้งต่าง ๆ เพื่อให้การนำเข้าสินค้าควบคุมทั้ง 144 รายการ เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ทาง สมอ. กล่าวว่า การทำลายสินค้าไม่ได้มาตรฐานในครั้งนี้ กระบวนการดำเนินงานทุกขั้นตอน เป็นระบบปิด มีระบบการควบคุมมลพิษและของเสียตามมาตรฐานสากล และไม่เหลือขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดเพิ่ม ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน