เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของคิวบา เริ่มปฏิบัติการพ่นควันในชุมชนขนาดเล็กของกรุงฮาวานา เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ซึ่งเป็นมาตรการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโอโรพุช
โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่มีฝนตกหนักในแถบทะเลแคริบเบียน ภาวะการขาดแคลนเชื้อเพลิง และกองขยะริมถนนเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค ส่งผลให้การแพร่ระบาดรวดเร็ว ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้ มีการลงทะเบียนผู้ติดเชื้อไวรัสแล้วกว่า 500 คน นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นช่วงที่ตรวจพบโรคนี้ครั้งแรก ทั้งนี้ จากวิกฤตขาดแคลนพลังงาน และไฟฟ้าดับที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ประชาชนต้องนอนเปิดหน้าต่าง เพื่อคลายร้อน จึงทำให้ให้ถูกยุง และแมลงกัด โดยมีชาวคิวบาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่ใช้ยาฆ่าแมลง
ทั้งนี้ ไวรัสแพร่ระบาดโดยมียุง และแมลงเป็นพาหะ ซึ่งแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในทุกจังหวัด และตามเมืองใหญ่ ๆ ของคิวบา รวมถึงกรุงฮาวานา โดยผู้ป่วย จะมีอาการคล้ายโรคไข้เลือดออก คือมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว และคลื่นไส้ ซึ่งปกติจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ขณะที่ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า มีพลเมืองสหรัฐฯ 21 คน ที่เดินทางไปคิวบา ติดเชื้อไวรัสโอโรพุชมาด้วย ซึ่งที่บราซิล ก็มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้รวดเร็วเช่นกัน และมีรายงานผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คนแรกของโลก
