ห้องข่าวภาคเที่ยง - เจ้าของร้านเคมีภัณฑ์แบบผสมมือ ประเภทคาร์แคร์ ที่ขายสารตั้งต้นให้กับ 2 พี่น้อง เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตสุราขาว เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับตำรวจเพิ่ม ยืนยันว่าสารที่ขายไป เป็นเอทิลแอลกอฮอล์
เมื่อวานนี้ คุณดารินทิพย์ ผู้สื่อข่าว ไปร้านขายเคมีภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดและดูแลรถ หรือ คาร์แคร์ แล้วได้เจอกับ "อีฟ" เจ้าของร้าน ก็ชี้แจงว่าทางร้านสั่งซื้อสารตั้งต้น หรือ หัวเชื้อ เป็นแกลลอน ๆ มาผสมเป็นน้ำยาที่ใช้ทำความสะอาดรถตามสูตรของทางร้านเอง พร้อมกับยอมรับว่าเคยขายแอลกอฮอล์ 95% ให้กับผู้ต้องหา ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นชนิดที่กินได้ หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งซื้อมาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อผลิตทำเจลล้างมือ และสเปรย์แอลกอฮอล์ ขายช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด แล้วแอลกฮอล์ตัวนี้ยังเหลืออยู่ในโกดัง ก่อนที่ผู้ต้องหา 2 พี่น้องจะมาขอซื้อต่อไปทั้ง 360 ลิตร 18 แกลลอน
ซึ่งต่อมาตำรวจก็ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บตัวอย่างสารเคมีทั้งหมดในร้าน รวมถึงแกลลอนบรรจุต่าง ๆ ไปตรวจพิสูจน์ทั้งหมดว่ามีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์หรือไม่
ขณะที่ อีฟ เจ้าของร้าน พร้อมผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปให้ปากคำตำรวจเพื่อชี้แจงยืนยันว่าไม่ได้ทำลายของกลาง เพราะได้ขายแอลกอฮอล์ให้กับ 2 พี่น้องไปทั้งหมด และทางร้านก็ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาจะสั่งซื้อไปทำอะไร หลักฐานทางคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้มอบให้ตำรวจไปหมดแล้ว
เวลา 14.00 น. วันนี้ ทีมแพทย์ที่เฝ้าระวังคลัสเตอร์ยาดองมรณะจะแถลงปิดศูนย์ พร้อมสรุปข้อมูลผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตทั้งหมดอีกครั้ง โดยตัวเลขที่ออกมาเมื่อวาน ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 8 คน โดยรายล่าสุดเป็นผู้ป่วยเดิมที่มีอาการป่วยหนักตั้งแต่แรกเข้ารับการรักษา ขณะที่ผู้ป่วยสะสมมีจำนวนที่ 44 คน รักษาหายแล้ว 30 คน และยังเหลืิอที่ยังต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 6 คน
