เจ้าอาวาส ชี้แจง หลังหญิงอ้างยืมเงิน 10 ล้านไม่คืน ให้ยึดโบสถ์แทน

เจ้าอาวาส ชี้แจง หลังหญิงอ้างยืมเงิน 10 ล้านไม่คืน ให้ยึดโบสถ์แทน

View icon 517
วันที่ 5 ก.ย. 2567 | 08.40 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าอาวาส ชี้แจง หลังหญิงอ้างยืมเงิน 10 ล้านไม่คืน ให้ยึดโบสถ์แทน เจ้าอาวาส เผย ถ้ายืมจริงต้องมีเอกสารการกู้ยืม เพราะหากไม่มีก็ถือว่า การมาวัดคือการทำบุญ ยืนยัน ให้ยึดโบสถ์แทน ก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะโบสถ์นี้ไม่มีกุญแจ  ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย ก็ไม่จริงแค่ป้องกันตัว แถมถูกโยมจับหัวเจ้าอาวาสโขกกำแพงอีก

จากกรณีป้าถูกพระวัดดังย่านปทุมยืมเงินไปเกือบ 10 ล้านบาท แต่เมื่อไปทวงถามกลับถูกทำร้ายร่างกายและ เอาโบสถ์มาค้ำประกัน หากไม่มีเงินใช้หนี้ยึดโบสถ์ไป นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้พาป้ากฤษณา มาพบกับท่านพระครูอ๊อดเจ้าอาวาสวัดสายไหม หรือ รองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา เพื่อปรึกษา โดย ป้ากฤษณา ได้บอกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ว่า เจ้าอาวาสได้มาขอยืมเงิน ไปเกือบ 10 ล้าน และตนเองก็ไปทวงหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้ และยังถูกเจ้าอาวาสทำร้ายร่างกาย และที่เจ้าอาวาสบอกจะให้ยึดโบสถ์ไปนั้นสามารถทำได้หรือไม่ ความคืบหน้า

5 กันยายน เวลา 19.00 น. ที่วัดพืชอุดม ม.9 ต.พืชอุดม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พระครู เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังกลับจากการพบแพทย์จากการรัดษาดวงตาที่อักเสบว่า โยมคนดังกล่าวได้เดินทางมาทำบุญที่วัดนานกว่า 13 ปี ที่ผ่านมาเวลามีกิจกรรมทำบุญในวัด เมื่อเขารู้ข่าวก็จะมาช่วย เมื่อบวชเณรก็จะมาช่วยเรื่องอาหาร มีกฐินก็มาช่วย ประเด็นที่อ้างว่าอาตมามีการยืมเงินเขาการยืมเงินต้องมีเอกสารหลักฐานการกู้ยืมไม่มีเอกสารใดๆจะพูดว่า เป็นการกู้ยืมไม่ได้ ต้องให้เขาเอกสารมา ว่าเราเซ็นกู้ยืม ถ้าไม่มีนั้นก็ถือว่ าการมาวัดคือการทำบุญ เงินจำนวนทั้งหมด ถือเป็นการทำบุญตามจิตที่เป็นกุศลของเขาเอง ในวันนี้คณะสงฆ์ก็จะมาสอบตนเองที่วัด

ในส่วนประเด็นที่ว่า อาตมายื่นกุญแจโบสถ์ให้ เพื่อค้ำประกัน อันนี้ไม่เป็นความจริงและโบสถ์ที่นี่ไม่มีกุญแจ ในส่วนส่วนของประเด็นโยมที่บอกว่า เป็นเจ้าหนี้อีกคนนั้น โยมคนนี้เป็นคนที่มาช่วยทางวัดมีกิจการบวงสรวงเทวดา ให้เขามาช่วยจัดเครื่องบวงสรวง ไม่เคยมีการยืมเงินเขา ต้องยืนยันว่าตนเองไม่ได้ยืมเงินใคร เพราะไม่มีเอกสารการกู้ยืม ทางวัดไม่อยากให้เรื่องราวมันดีฉาวโฉ่ พยายามอดทนมาตลอด แต่มักจะมากล่าวหาเช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ พยายามใช้เหตุการณ์ต่างๆมาบีบบังคับ โดยโยมที่มีปัญหานั้น ทำบุญบ่อย และมีการทำบุญแบบโอนเงินเข้าบัญชี ยืนยัน ไม่เคยกู้ยืมเงินจากใคร

กรณีโยมคนดังกล่าวที่อ้างว่าอาตมามีการทำร้ายร่างกายบีบคอใช้เท้ายัน อาจมายืนยันว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อนที่กุฎิของอาตมา โดยวันนั้นอาตมานั่งอยู่ที่โต๊ะ โยมดังกล่าว เข้ามาในกุฎิ และมาพูดคุยมาทวงเรื่องเงิน แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะมันไม่มีหนังสือกู้ยืมเงิน และจะเข้ามาทำร้าย จึงใช้เท้ายันไป ทีนี้พอหลุดจากการยันไป โยมคนดังกล่าวก็จับหัวอาตมาโขกกับผนังไม้จนทำให้ฉากไม้บังตาหลังโต๊ะที่นั่งได้รับความเสียหายเป็นรูโหว่ เพราะถูกจับศีรษะโขก 2-3 ที

ตนเองยืนยันว่าเมื่อเห็นความไม่ปลอดภัยจะเข้ามา จึงต้องป้องกันตนเอง โดยใช้เท้ายันไป 1 ที เป็นพระไม่อยากจะพูดๆไปก็เสียหาย สำหรับเรื่องดังกล่าวอาตมาไม่ได้แจ้งความ แล้วมาช่วงหลังนี้โยมคนดังกล่าว ได้ขอคืนสิ่งของที่ถวายทำบุญมาก่อนหน้านี้ อะไรที่ยังคืนได้ อาตมาก็คืนไป เรื่องเล็กๆน้อยๆอาจจะไม่ใช่ความจริง แต่ถูกแพร่ออกไปด้วยความมันของข่าว ทำให้เกิดความเสียหายในทางศาสนา ความไม่หวังดีของคนต่างศาสนาที่จะฉวยอากาศนี้สร้างความเสื่อมเสีย ต้องระมัดระวังอย่าให้โยมชาวพุทธเสื่อมศรัทธาในความเชื่อมั่นที่มีของศาสนาต้องระมัดระวัง บางทีข่าวไม่จริงทั้งหมดเวลาออกข่าวไปแล้วจะแก้อย่างไร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง