สนามข่าว 7 สี - เรื่องราวข้อพิพาทระหว่าง "เศรษฐินี" ร้องเรียนถูก "เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม" ยืมเงินแล้วไม่คืน ขณะที่เจ้าอาวาสออกมาปฏิเสธว่า ไม่จริง เริ่มต้นนับหนึ่งในการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว สุดท้ายยอมรับสภาพหนี้
การตรวจสอบข้อเท็จจริงเริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณ 10.00 น. ของเมื่อวาน ตามคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัด โดยมีเจ้าคณะอำเภอเป็นประธานมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมและมีตำรวจสังเกตการณ์
ทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจากลูกศิษย์วัด ซึ่งก็ยืนยันเรื่องการค้ำประกันด้วยโบสถ์ไม่จริง
ส่วนเรื่อง "โยมอุปัฏฐาก" ที่เป็นคู่กรณี ยอมรับว่า เข้ามาทำบุญที่วัดหลายปีแล้ว บางครั้งเมื่อทำบุญจะมีการขอเงินคืนอยู่บ้าง แต่เงินทำบุญที่ได้มา ยืนยันว่า ถูกนำไปใช้ทำนุบำรุงวัด
ภายหลังการประชุม เจ้าคณะตำบลลำไทร ชี้แจงว่า ได้สอบถามข้อมูลจากหลายฝ่ายโดยการสอบสวนทางสงฆ์จะมี 3 ขั้นตอน
ขั้นตอนแรกจะสอบสวนคู่กรณี 2 ฝ่าย จากนั้นจะส่งเรื่องให้เจ้าคณะอำเภอสอบสวน เมื่อแล้วเสร็จจะส่งเรื่องให้เจ้าคณะจังหวัดสอบเพิ่มเติมเป็นขั้นตอนที่ 3
ส่วนที่เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม ระบุว่า มีการบีบบังคับให้เซ็นเอกสารยอมรับสภาพหนี้นั้น ไม่เป็นความจริง
ต่อมาช่วงเย็นเจ้าคณะตำบลลำไทร ได้นัด "โยมอุปัฏฐาก" ที่เป็นคู่กรณีมาชี้แจงกับคณะกรรมการฯ ซึ่งทางเจ้าตัวคือ"นางกฤษณา" ได้ให้ข้อมูลภายในกุฎิของเจ้าคณะตำบลฯ
ขณะที่ พระครูอุดมปทุมมาภิรัต "เจ้าอาวาสวัดพืชอุดม" เปิดใจอีกครั้ง ยืนยันว่าเรื่องหนี้ไม่เป็นความจริง การทำสัญญารับสภาพหนี้ในวันนั้นเกิดจากการถูกบังคับ
(22.30 น.) ผ่านไป 4 ชั่วโมง ลูกศิษย์คนสนิทของเจ้าอาวาสวัดพืชอุดมฯ ได้ออกจากห้องสอบวินัยฯ และได้นิมนต์พระครูอุดมฯ มาเข้าพบคณะสอบวินัยสงฆ์อย่างเร่งด่วน
(23.00 น.) ระหว่างที่พระครูอุดมฯ กำลังเดินเข้าห้องสอบผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า หนักใจหรือไม่ แต่ท่านไม่ยอมตอบเดินเข้าห้องไปด้วยสีหน้าค่อนข้างเคร่งเครียด
ผ่านไป 30 นาที "นางกฤษณา" ก็เดินทางกลับ บอกว่า ได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่มีการให้ข่าว ส่วนพระครูอุดมฯ ก็มายอมรับสภาพหนี้ แต่ต้องรอผลการสอบสวน เบื้องต้นพระครูอุดมฯ ยอมจ่ายหนี้ให้โดยไม่มีเงื่อนไขและทำหนังสือสัญญายอมใช้หนี้ ตอนนี้เรื่องยุตติแล้ว พอใจกับการสอบวินัยฯ ในวันนี้ ต่อมาพระครูอุดมฯ ก็เดินทางกลับ ทีมข่าวพยายามสอบถามถึงการเจรจา แต่พระครูอุดมฯ ไม่ตอบคำถามใด ๆ และขึ้นรถเดินทางกลับวัดทันที
