ไฟโหมรุนแรง ไหม้กองยาง-พลาสติกในโรงงานรีไซเคิล รถน้ำ 20 คันฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลามบ้านเรือน ขณะที่ชาวบ้านรอบโรงงานผวาผลกระทบกลิ่นควัน ความร้อน พากันออกจากที่พักอาศัยชั่วคราว รอเพิลงสงบก่อนหาสาเหตุ
วันนี้ (6 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ (5 ก.ย.67) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่บริษัทรับซื้อของเก่าและผลิตพลาสติก ในตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้รีบรายงานให้นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจาก ทต.บางหญ้าแพรก,อบจ.สมุทรสาคร,เทศบาลนครสมุทรสาคร,ทต.ท่าจีน,ทต.บางปลา,อบต.บางกระเจ้า,อบต.พันท้ายนรสิงห์,อบต.โคกขาม, อบต.ท่าทราย,อบต.บ้านเกาะ,ทต.สวนหลวง,ทม.คลองมะเดื่อ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียง และรถสนับสนุน รวมเกือบ 20 คันเข้าระงับเหตุ
ภายใต้การควบคุมสั่งการของ ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีนายสรวิชญ์ แซ่ลิ้ม นายก ทต.บางหญ้าแพรก , ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ปภ.สมุทรสาคร และ ร.ต.อ.สุเทพ มรกตจักษุพันธุ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรย่อยท่าฉลอม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้กองยางและกองพลาสติกเก่าที่อยู่ภายในอาคารโกดังอย่างรุนแรง โดยกลุ่มควันกับเปลวเพลิงจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานหวาดกลัวทั้งปัญหากลิ่นเหม็นจากพลาสติกที่ถูกเผาไหม้และความร้อน พากันย้ายออกจากที่พักอาศัยมาอยู่ด้านนอกเป็นการชั่วคราว เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ร.ต.ประพันธ์ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ที่เกิดเหตุมีลักษณะการประกอบกิจการเป็นสถานที่รับซื้อของเก่า (ขยะรีไซเคิล) และผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและติดไฟได้นาน จึงทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรง ส่วนพื้นที่โดยรวมของบริษัทนี้มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 40 – 50 ไร่ แต่บริเวณที่เก็บกองวัสดุแล้วเกิดเพลิงไหม้อยู่ในพื้นที่ราว ๆ 4 – 5 ไร่ ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หลังควบคุมเพลิงได้แล้วจะเรียกเจ้าของบริษัทมาสอบถาม พร้อมกับให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการฯ กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
ส่วนปัญหาความยากของการดับเพลิงโรงงานขยะรีไซเคิลแห่งนี้จะอยู่ตรงที่พื้นที่ทางเข้าออกในโรงงานแคบ ทำให้รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถวิ่งสวนทางผลัดกันเข้าออกเพื่อส่งน้ำเข้าไปดับไฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งบ่อพักน้ำที่โรงงานบอกว่ามีอยู่หลายไร่นั้น ก็อยู่อีกฝั่งหนึ่งของกองเพลิงทำให้รถน้ำไม่สามารถวิ่งเข้าฝ่าเปลวไฟไปถึงตรงนั้นได้ ส่วนอีกบ่อปริมาณน้ำก็มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งใช้ไปจนใกล้จะหมดแล้ว ทั้งนี้ ก็คงต้องใช้วิธีการให้รถน้ำวิ่งส่งน้ำแทน ถึงจะเพียงพอต่อการดับไฟในครั้งนี้
สำหรับแผนดับเพลิงในตอนนี้ต้องควบคุมให้เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามไปยังอาคารอื่น และบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ โชคดีที่โรงงานแห่งนี้มีกำแพงกั้นไว้สูง และหลังจากนี้ยังต้องไปตรวจสอบข้อมูลของโรงงานรวมถึงระบบการดับเพลิง การควบคุมเพลิงของโรงงานด้วย ส่วนระยะเวลากว่าที่เพลิงจะสงบลงก็คาดว่าจะถึงเช้าวันนี้
