บุกรังขอทานต่างด้าว โกยเงินวันละหลักพัน ไปกินเหล้า-เล่นไพ่

View icon 90
วันที่ 6 ก.ย. 2567 | 16.44 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "กัน จอมพลัง" ขอกำลังตำรวจบุกบ้านเช่าซอยรามอินทรา 73 รังแก๊งขอทานต่างด้าว หลังจับกุมสาวกัมพูชา นำเด็กไม่ใช่ลูก หรือญาติ มาเร่ขอทานย่านบางกะปิ เบื้องต้นจับได้กว่า 10 คน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่

บุกรังขอทานต่างด้าว
ช่วงเช้าที่ผ่านมา กัน จอมพลัง เข้าพบ พลตำรวจเอก นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.คันนายาว เพื่อขอกำลังตำรวจ เข้าตรวจสอบบ้านเช่าภายในซอยรามอินทรา 73 ถนนรามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. หลังจากเมื่อวานนี้ กัน จอมพลัง และตำรวจ สน.ลาดพร้าว จับกุมขอทานชาวกัมพูชาเป็นผู้หญิงรายหนึ่ง นำเด็กที่ไม่ใช่ลูกหรือญาติของตัวเอง มานั่งขอทานที่ตลาดบางกะปิ และพบข้อมูลว่าที่ซอยรามอินทรา 73 เป็นแหล่งที่พักอาศัยของขอทานต่างด้าว ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมาย เพื่อมาขอทาน โดยส่วนใหญ่มีร่างกายพิการตาบอดและใบหน้าเหลว

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ภายในซอยดังกล่าว มีข้อมูลว่า เป็นแหล่งกบดานของแก๊งขอทานกัมพูชา มีรายได้ต่อวันหลักพันบาท ได้เงินมาก็มานั่งดื่มเหล้า เล่นไพ่กัน ทำให้ต่อปีมีเงินไหลออกจากประเทศไทยหลายล้านบาท ด้วยเหตุผลที่ว่า คนไทยใจดี มักให้เงินขอทาน อยากให้คนไทยช่วยคิดก่อนที่จะบริจาคเงินให้แก่ขอทาน เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ขอทานข้ามชาติไหลเข้ามาในประเทศไทย อีกทั้งเด็กไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องมานั่งขอทาน

จากนั้น ตำรวจเข้าร่วมตรวจสอบ พบบ้านเช่าหลังดังกล่าว เป็นอาคาร 2 ชั้น แบ่งซอยเป็นห้องพักให้เช่า แต่ไม่พบชาวกัมพูชาที่มีสภาพร่างกายพิการแต่อย่างใด คาดว่ากลุ่มคนพิการขอทานดังกล่าว หลบหนีไปก่อน    

ต่อมาคุณกัน ได้ประสาน พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ขอกำลังตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เข้ามาร่วมตรวจสอบหาข้อมูล และวางแผนปราบปรามแก๊งขอทานต่างด้าวชาวกัมพูชา  

ดส.จับขอทานเด็ก-ผู้ใหญ่ได้กว่า 10 คน
กระทั่งทีมของ กัน จอมพลัง และนักข่าวกำลังจะกลับ ระหว่างนั้นตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 พบเบาะแส มีสามี ภรรยา ชาวกัมพูชา กำลังเดินในซอยรามอินทรา 73 จึงได้ไปสอบถามข้อมูล ทำให้ทราบว่า ทั้ง 2 มีชื่อว่า นางเล้ง กับ นายเม้ง กำลังกลับมาจากขอทาน ย่านลาดกระบัง พร้อมกับ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วย

โดยนางเล้งบอกว่า ตนมาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยประมาณ 20 ปีแล้วโดยตอนแรกทำอาชีพเป็นลูกจ้างธรรมดาทั่วไป กระทั่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็ผันตัวมาทำอาชีพขอทาน และได้คบหากับสามีมา 8 ปี โดยสามี ก็ทำอาชีพขอทานเหมือนกันและมีลูกด้วยกัน 1 คน สาเหตุที่มาทำอาชีพขอทานเพราะไปรู้จักกับเพื่อนชาวกัมพูชาแล้วเขาชักชวนให้มาทำอาชีพนี้และก็ได้มาอยู่ในซอย รามอินทรา 73 เหมือนกัน วันนึงก็ได้เงิน 100-800 บาท เท่านั้น

หลังจากนั้นตำรวจได้ขอค้นบ้านของสองสามีภรรยาคู่นี้แต่ปรากฏว่าเมื่อเปิดไปเจอกับชาวกัมพูชาคนนึงที่อุ้มลูก หลบอยู่ด้านหลังของห้องเช่า ขณะเดียวกันชายคนดังกล่าวได้เปิดโซเชียลดูไลฟ์สดของกันจอมพลัง ที่กำลังตามหาชาวกัมพูชาอยู่ด้วย ซึ่งในตอนแรกตำรวจได้มาเคาะบ้านหลังดังกล่าวแล้ว แต่พบว่ามีการล็อคประตูเอาไว้จากด้านหน้า จึงคาดว่าไม่มีคนอยู่ แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าทางด้านหลังบ้าน กลับเจออีกหลายครอบครัว

จากนั้น ก็ได้เจอกับชาวกัมพูชาเป็นเพศหญิง ที่ใบหน้าเละ หลบอยู่ภายในห้องพักกับลูกชาย 1 คน ซึ่งจากการตรวจสอบห้องพักก็พบว่ามีไพ่อยู่ในกระเป๋า และพพแอลกอฮอล์ตั้งอยู่หน้าห้อง เจ้าตัวอ้างว่า เอามาให้ลูกเล่น โดย นางเอ นามสมมติ กล่าวว่า ที่ใบหน้าเละแบบนี้เพราะเกิดจากเหตุการณ์แก๊สระเบิดเมื่อ 19 ปีที่แล้ว หลังจากนั้น จึงตัดสินใจมาประเทศไทย โดยมีรถตู้ไปรับที่ชายแดนกัมพูชา คิดค่ารถ 3,000 บาท ยอมรับว่า ตอนนี้ ตนเองไม่ได้มีพาสปอร์ตเข้าประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฏหมายและทราบว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่รู้ว่าไปทำอาชีพอะไร เพราะว่าอยู่ที่ประเทศกัมพูชาก็ไม่มีรายได้ แต่อยู่ที่นี่ มีรายได้ดีจากการขอทาน เพราะคนคนไทยเป็นคนใจดี โดยตน ได้รายได้ต่อวัน เป็นเงิน 800-1,000 บาท

ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าข้างห้อง ก็ทำอาชีพแบบเดียวกันด้วย บอกว่า "ไปจับห้องนั่นหรือยัง" เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เปิดห้องดังกล่าว จากข้างหลัง ก็ได้พบว่า มีชายชาวกัมพูชาหน้าเละอาศัยอยู่ภายในห้องมาตลอด ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่กำลังเดินตรวจสอบ มีช่วงนึงเจ้าหน้าที่ให้โทรหาภรรยาเพื่อมาไขกุญแจด้านหน้า แต่ในระหว่างนั้น พบว่าชายคนนี้แอบลบเบอร์แปลกในโทรศัพท์ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเอาโทรศัพท์มาตรวจสอบ ก่อนจะให้โทรเรียกหาภรรยาของตัวเองอีกครั้ง และต่อมา ภรรยาได้อุ้มลูกน้อย 1 คน มาแสดงตัว ก่อนจะให้เตำรวจตรวจค้นห้อง ก็พบว่ามีเงินสดเกือบ 30,000 บาท และมีทองที่ใส่อยู่ในตัวด้วย

เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวชาวกัมพูชาได้กว่า 10 คน มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้นำตัวไปสอบสวน เพื่อขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เปิดสถิติขอทานทั่วประเทศ
ด้าน นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า จากสถิติสถานการณ์การขอทานทั่วประเทศในระบบฐานข้อมูล ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557-31 ตุลาคม 2566 พบผู้กระทำการขอทาน 7,151 คน และพบว่าในช่วงโควิด-19 ปิดประเทศ ทำให้จำนวนขอทานต่างด้าวเข้าไทยลดน้อยลงแต่สัดส่วน ขอทานคนไทยเพิ่มมากขึ้น

โดยจำนวนขอทานต่างด้าวพุ่ง 683 คน ปี 2561 จำนวน 190 คน ปี 2562 จำนวน 172 คน ปี 2563 จำนวน 115 คน ปี 2564 จำนวน 86 คน ปี 2565 จำนวน 69 คน ปี 2566 จำนวน 136 คน 1 ตุลาคม 2566 6 คน เป็นคนจีนทั้งหมด

ส่วนขอทานไทยไม่แผ่ว 1,794 คน ปี 2561 จำนวน 341 คน ปี 2562 จำนวน 261 คน ปี 2563 จำนวน 227 คน ปี 2564 จำนวน 220 คน ปี 2565 จำนวน 333 คน ปี 2566 จำนวน 400 คน 1 ตุลาคม 2566 พบ 12 คน

ขอบคุณภาพจาก : Facebook กันจอมพลัง ช่วยสู้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง