ตำรวจไซเบอร์ล่าขบวนการส่ง SMS การไฟฟ้าปลอม อ้างคืนเงินค่า FT ลวงเหยื่อกดรหัส PIN ดูดเงินเกลี้ยงเกือบ 2 ล้าน
วันนี้ ( 7 ก.ย.67) หลังมิจฉาชีพส่ง SMS เข้าโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย อ้างว่าส่งมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แจ้งว่าผู้เสียหายมีสิทธิได้รับเงินคืนค่า FT และให้กดลิงก์ที่แนบมาเพื่อขอเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อกดเข้าไป ปรากฎเป็นบัญชีแอปพลิเคชัน Line ชื่อ “PEA THAILAND” และมีคนอ้างเป็นพนักงานการไฟฟ้า ขอภาพถ่ายเอกสารส่วนตัวต่าง ๆ ของผู้เสียหาย เพื่อใช้ประกอบการลงทะเบียนขอรับเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงส่งภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนให้ไป
จากนั้น มิจฉาชีพแจ้งว่าให้ลงทะเบียนในเว็บไซต์การไฟฟ้า ตามขั้นตอนที่แนะนำ จากนั้นได้มีข้อความปรากฎบนมือถือให้ผู้เสียหายกดยืนยันรหัส PIN เพื่อดาวโหลดขั้นตอน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ก่อนจะรู้ตัวว่าเป็นรหัสเดียวกับรหัสโอนเงินของแอปธนาคารของผู้เสียหาย แต่หลงเชื่อโดนเงินให้คนร้ายไปจนหมด เกือบ 2 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญช ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวน จนสามารถขอออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารในการรับโอนทอดต่างจากผู้เสียหายได้ จำนวน 20 คน กระทั่งตำรวจ กก.3 บก.สอท.3 ได้ออกติดตามผู้ต้องหา ที่หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ได้ 1 คน สามารถจับกุมนางสาว จิตติมา อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ,ร่วมกันโดยทุจริตเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ ,ร่วมกันกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบเพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ฯ และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และสมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน
เบื้องต้น นางสาวจิตติมา รับว่า รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร และรับจ้างเปิดใช้งานซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือพร้อมสมัครใช้แอปธนาคาร แล้วส่งมอบให้นายหน้าที่มารับซื้อบัญชี ตำรวจจึงควบคุมตัว ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
