สธ.พร้อมช่วยเหลือ สาวแพ้ยาหวิดตาบอด

View icon 88
วันที่ 10 ก.ย. 2567 | 06.34 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานเรานำเสนอข่าวของหญิงรายหนึ่ง ชื่อ ศศินันท์ อายุ 31 ปี ที่เธอเข้ารักษาอาการตาแดง และเจ็บคอ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าหมอฉีดยาแก้แพ้ให้เธอ 3 ครั้ง ทำให้แพ้ยารุนแรงจนเสียโฉม ล่าสุดมีผู้เสียหายเพิ่มอีก 1 คน หญิงสาวคนนี้เธอแค่เป็นไข้ ไม่สบาย หลังไปพบแพทย์ได้ใช้วิธีการรักษาด้วยการฉีดยา สุดท้ายแพ้ยาตุ่มพุพองขึ้นเต็มหน้า เต็มตัว เกือบตาบอด 2 ข้าง

แผลพุพอง และรอยไหม้ผิวหนัง ที่เห็นอยู่นี้ คือผลจากอาการแพ้ยาของหญิงสาว อายุ 30 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีประวัติการแพ้ยามาก่อน

ผู้เสียหายคนนี้ (ที่เป็นแผลพุพอง รอยไหม้) ได้เข้ารักษาอาการป่วยเป็นไข้ เจ็บคอ ที่โรงพยาบาลเอกแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนนทบุรี ตอนแรกหมอวินิจฉัยว่าติดเชื้อ จึงฉีดยา และให้ยาฆ่าเชื้อกลับมากิน เช้าวันถัดมารู้สึกแสบตา เจ็บในช่องปาก และเริ่มมีตุ่มน้ำใสขึ้นตามตัว จึงกลับไปหาหมออีกครั้ง แต่หมอให้ยารักษาตามอาการแทน ทั้ง ๆ ที่แจ้งไปแล้วว่าอาจแพ้ยาก็ได้ แต่หมอยืนยันว่าไม่ใช่ สุดท้ายอาการทรุดหนัก เป็นแผลพุพองเยอะกว่าเดิม

วานนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พาผู้เสียหายทั้ง 2 คน คือ คุณศศินันท์ อายุ 31 ปี (ที่เรานำเสนอข่าวไปเมื่อวานนี้) กับผู้เสียหายรายล่าสุด เข้าร้องขอความเป็นธรรมเข้าร้องเรียนต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ช่วยหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตาช่วยรักษา ก่อนที่ตาจะบอดสนิท โดยมี นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับเรื่องร้องเรียน

นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากการรักษาผิดพลาดจริงหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน ผู้เสียหายสามารถที่จะแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ หลังจากนี้จะส่งผู้เสียหายไปตรวจจอดประสาทตา และส่งตรวจตัวอย่างยาที่หมอฉีดให้ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

ด้าน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพราะนั่งเกล้า ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน คือ ความผิดปกติของผิวหนัง และเยื่อเมือกบุผิวชนิดรุนแรง พบได้ไม่บ่อย โดยอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือการตอบสนองของร่างกายต่อยาบางชนิด ระยะแรกผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ตามมาด้วยผื่นแดงที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด จากนั้นผื่นจะค่อย ๆ ลุกลาม และกลายเป็นแผลพุพอง อาการจะขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ไวต่อยาของแต่ละบุคคล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง