ทวงหนี้ดุ! อุ้มพี่สาวลูกหนี้ ขึ้นกระบะเรียกค่าไถ่ชดใช้หนี้ 2 แสน และทำร้ายร่างกายจนอาการหลัก หลังถูกรวบยกแก๊ง โดนแจ้งข้อหายาวเหยียด หนึ่งในผู้ต้องหา เผยสาเหตุ ทำไปเพราะบันดาลโทสะ หลังไปทวงหนี้แล้วถูกบ่ายเบี่ยง
10 กันยายน 2567 จากกรณี นางติ๋ม อายุ 54 ปี ถูกแก๊งเจ้าหนี้ 4 คน ฉุดขึ้นรถกระบะจากหน้าบ้านพักตัวเอง ต่อหน้าลูกหลาน 3 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณบ้านพักใน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี หลังจากนั้น นางแดง แม่ นางติ๋ม ได้เข้าแจ้งความ โดยบอกว่า นางติ๋ม โทรกลับมา บอกว่า แก๊งเจ้าหนี้ต้องการให้ใช้หนี้ ที่ น.ส.ชบาทิพย์ อายุ 44 ปี น้องสาวของนางติ๋ม และ นายพิชิต อายุ 48 ปี สามีน้องสาว ได้กู้ยืมมา แล้วจะปล่อยตัวกลับบ้าน มีการโทรศัพท์เรียกค่าไถ่ชดใช้หนี้ 2 แสนบาท ที่น้องสาวนางติ๋ม ยืมไปเมื่อปี 2561 โดยมีการโทรศัพท์มาต่อรองกันหลายรอบ เริ่มจากให้จ่าย 1.7 แสนบาท จนเหลือ 3 หมื่นบาท แล้วให้นำรถกระบะไปจอดไว้บ่านเจ้าหนี้เพื่อเป็นประกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 8 ก.ย.67
จากการสอบถามทราบว่า น้องสาวของนางติ๋ม ได้ไปยืมเงินนางบุดฯ จำนวน 2 แสนบาท เมื่อเกือบ 10 ปี ก่อน แต่ยังชดใช้คืนไม่หมด จึงยกหนี้ก้อนนี้ให้ลูกสาวและลูกเขยไปติดตามหนี้ กระทั่งลูกเขยและลูกสาวของนางบุด มาก่อเหตุลักพาตัวแล้วเรียกค่าไถ่เกิดขึ้น แต่คนที่ลักพาตัวไปเป็น นางติ๋ม พี่สาว ลูกหนี้ ระหว่างนี้ นางติ๋ม ได้โทรศัพท์ติดต่ออยู่ตลอด เรียกเงิน 170,000 บาท มีการต่อรองจ่ายก่อน 30,000 บาท แล้วจะปล่อยตัว ล่าสุดมีการต่อรองว่า ให้เอารถกระบะของนางแดง ไปจอดไว้ที่บ้านของนางบุด แล้วจะถูกปล่อยตัว
หลังจากนั้น ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และ สภ.ไชยวาน ได้ร่วมกันปิดล้อมจับได้ยกแก๊ง ช่วงเย็นวันที่ 9 ก.ย.67 ในพื้นที่ป่าใกล้วัดถ้ำสายบาตร ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมรถยนต์ของกลางมาที่ สภ.ไชยวาน ส่วนนางติ๋มที่มีอาการบาดเจ็บ หน้าปูดบวมฟกช้ำจากการถูกซ้อม ตำรวจนำส่ง รพ.วังสามหมอ และส่งต่อ รพ.กุมภวาปี เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
ความหน้าล่าสุด ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 10 กันยายน 2567 พ.ต.อ.รัฐพลชัย เพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน ได้นำตัว น.ส.จิรปรียา อายุ 36 ปี ชาว ต.เวียงคำ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ,นายบรรพจ อายุ 40 ปี ชาว ต.บะยาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี ,นายฤทธิ์ชัย อายุ 31 ปี และนายเพยาว์ อายุ 42 ปี ชาว ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร 4 ผู้ต้องหาในคดีลักพาตัวนางติ๋ม มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมทีละคน ในห้องทำงานของผู้กำกับ
เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ เอาตัวบุคคลอายุมากกว่า 15 ปี ไปโดยขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำ หรือวิธีข่มขื่นใจด้วยประการอื่น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย”
น.ส.จิรปรียาฯ ,นายฤทธิ์ชัยฯ ,นายเพยาว์ฯ ยอมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วนนายบรรพจฯ หรือเสี่ยโก่ย ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายนางติ๋ม และในช่วงบ่าย ผกก.สภ.ไชยวาน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน จะเดินทางไปดูอาการและสอบปากคำนางติ๋ม ที่ รพ.กุมภวาปี เพิ่มเติมอีกครั้ง คาดว่าอาการบาดเจ็บของนางติ๋มหนักพอสมควร เนื่องจากต้องส่งต่อมาที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อทำการรักษา
ทั้งนี้ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขัง ผู้สื่อข่าวถาม น.ส.จิรปรียา ว่าทำไมถึงต้องลงมือลักพาตัว โดยได้คำตอบว่า บ้านนี้เขาเป็นหนี้บ้านตนมาเกือบ 10 ปี แต่ไม่ยอมใช้หนี้บ้านตน ตนจึงมาทวงถามให้ใช้หนี้ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ตนจึงทำไปเพราะบันดาลโทสะ
