หนุ่มน้อยกับแมวรอดตายปาฏิหาริย์ คนเมาแล้วขับกระบะหลุดโค้ง พุ่งเข้าอู่ซ่อมรถ

วันนี้ (16 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด บันทึกนาทีชีวิตของการเกิดอุบัติเหตุ โดยวัยรุ่นชายที่อยู่ในเหตุการณ์รอดตายปาฏิหาริย์ เมื่อมีรถกระบะ สีดำ ขับมาด้วยความเร็วสูง หลุดโค้งชนเข้ากับอู่ช่างโจ้ NTK บ้านหนองตาคง หมู่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เกิดการดึกคืนวันที่ 15 ก.ย. 67 เวลา 22.30 น. ที่ผ่านมา

ต่อมาวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่เกิดเหตุ พบคนในร้านกำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว และเดินดูร่องรอยความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งกำลังจะไปแจ้งความ ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

นายฉัตรมงคล น้อยทะเล อายุ 39 ปี เจ้าของอู่ เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เวลา 22.30 น. พบรถผู้ก่อเหตุ เป็นรถกระบะ สีดำ ทะเบียน ผว 9098 ขอนแก่น ขับมาด้วยความเร็ว แล้วหลุดโค้ง เข้ามาชนรถกระบะที่จอดซ่อมอยู่ในร้าน ก่อนที่จะแฉลบพุ่งเข้าหาเด็กที่นั่งเล่นอยู่ท้ายกระบะ แต่โชคดีที่กระโดดหลบได้ทัน แต่ก็ยังได้รับบาดเจ็บบริเวณตามร่างกายหลายแห่ง หลังจากนั้นตนได้เดินเข้าไปหารถที่ชน พบว่ามีชายฉกรรจ์อยู่ในรถอายุประมาณ 25 ถึง 30 ปี จำนวน 5 คน มีสภาพมึนเมา

จากนนั้นตนจึงได้จับคนขับรถให้ลงมา เพราะกลัวว่าจะหนี แต่ทันใดนั้นถูกคนในรถใช้มีดฟันเข้าที่นิ้วกลางด้านขวา ได้รับบาดเจ็บแผลฉกรรจ์ จึงถอยออกมาตั้งหลัก และรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ก่อนที่จะพาเด็กที่อยู่ในร้านไปโรงพยาบาล ต่อมารู้ว่าผู้ก่อเหตุรู้จักกับตำรวจ จึงกลัวคดีไม่คืบหน้า นอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในร้าน พบว่าร้านได้รับความเสียหาย รวมไปถึงรถกระบะของลูกค้า 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 4 คัน มูลค่าความเสียหายประมาณ 4-5 แสนบาท

สอบถาม นายกิต อายุ 15 ปี ผู้ที่อยู่ในคลิปเหตุการณ์ เล่าว่า ในช่วงเวลานั้นตนได้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เพราะทำงานเสร็จหมดแล้ว จากนั้นได้มีแมวเดินมาหา จึงได้เล่นกับแมว แต่ในระหว่างนั้นได้ยินเสียงรถขับมาด้วยความเร็ว และอยู่ในช่วงของทางโค้ง ซึ่งเห็นรถเสียหลักพุ่งเข้าอู่ และพุ่งมาหาตัวเอง จึงรีบกระโดดหลบได้ทันท่วงที แต่ก็ยังถูกชน แต่ไม่จัง ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาทั้งสองข้าง สะโพก และแขน และอยากจะบอกว่า ถ้าคิดว่าเมาก็อย่าขับ เพราะมันทำให้คนอื่นเดือดร้อน

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เพราะได้ข้อมูลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมากัน 5 คน แต่มีการหลบหนีไปจำนวน 2 คน และกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักกับตำรวจในพื้นที่ กลัวว่าจะมีการช่วยเหลือ ซึ่งทางผู้กำกับยืนยันว่า ไม่มีใครช่วยเหลือใคร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้สั่งการไปยังพนักงานสอบสวน ชุดสายสืบ ให้ออกเร่งติดตามบุคคลทั้งหมด เพื่อจะได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบต่อไป