มอบตัวแล้ว หนุ่มขับรถฝ่าน้ำท่วม ถนนประจักษ์ เมืองหนองคาย จนทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่บ้านเสียหาย

มอบตัวแล้ว หนุ่มขับรถฝ่าน้ำท่วม ถนนประจักษ์ เมืองหนองคาย จนทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่บ้านเสียหาย

View icon 132
วันที่ 18 ก.ย. 2567 | 07.55 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หนุ่มสุรินทร์ ขับรถฝ่าน้ำที่ท่วมในถนนประจักษ์ศิลปาคม เมืองหนองคาย จนทำให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่กระแทกกระจกบ้าน ประตูร้านค้าได้รับความเสียหาย เข้ามอบตัวแล้ว เผย หลังลงทรายแล้วช่วยน้ำท่วม แล้วหลงทาง ก่อนขับเข้ามาบนถนนดังกล่าว ซึ่งมีน้ำท่วมสูงกลัวรถจะดับและมองไม่เห็นเส้นทาง จึงได้เร่งเครื่องจนทำให้เกิดความเสียหาย
 
จากกรณีที่โซเชียลได้มีการแชร์คลิปรถบรรทุกขับผ่านกระแสน้ำที่ท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย โดยเมื่อคืนวันที่ 15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.10 น. มีชายขับรถบรรทุก 6 ล้อฝ่าแนวกันซอยหน้า บขส.หนองคาย เลี้ยวซ้ายฝ่ากระแสน้ำไปตามถนนประจักษ์ศิลปาคม ที่มุ่งหน้าไปทางเทศบาลเมืองหนองคาย มีการใช้ความเร็วประมาณ 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนทำให้น้ำที่ท่วมถนนเกิดคลื่นขนาดใหญ่ไปกระแทกกับกระจกบ้าน ประตูห้างร้านต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณถนนประจักษ์ศิลปาคมทั้ง 2 ข้างของถนน แตกและเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหายกว่า 10 รายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และได้มีการแชร์คลิปดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ออกสืบสวนติดตามหาผู้ที่ขับรถดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา
 
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ ทำให้ทราบว่าผู้ที่กระทำผิดเป็นคนจังหวัดสุรินทร์ มีภรรยาเป็นคนหนองคาย อยู่ในเขตตำบลวัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย จึงได้ติดตามตัวไปที่บ้านของภรรยาก็ไม่พบตัว ทราบว่าหลังเกิดเหตุก็ได้หลบหนีไปพร้อมภรรยา เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามกดดัน
 
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของวันนี้ (17 ก.ย.67) ชายที่ขับรถบรรทุกหกล้อคันที่ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายธีระศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี เป็นชาวตำบลยะวึก อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย พร้อมพ่อแม่และญาติ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมี พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย และ พ.ต.ท.พุฒิชัย จันทร์ทอง รอง ผกก.(สส.) สภ.เมืองหนองคาย ได้ร่วมกันสอบถามเบื้องต้น

นายธีระศักดิ์ บอกว่า วันที่เกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนที่ขับรถอีกคันไปลงทรายที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย โดยเอารถไปรับทรายมาจากท่าทรายในเขตบ้านเดื่อ ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองหนองคาย ตนมาช่วยหลังน้ำท่วมจังหวัดหนองคาย มีรุ่นพี่ชวนมาช่วยน้ำท่วมด้วยกัน ท่าทรายให้ทรายมาเพื่อช่วยวัด เอาทรายมาลงแล้ว 2 เที่ยว โดยตนขับรถตามเพื่อนอีกคัน ครั้งหลังเพื่อนออกไปก่อนตนจำเส้นทางไม่ได้ จึงได้เข้ามาถนนประจักษ์ฯที่น้ำท่วมสูงอยู่ เมื่อขับรถเข้ามาแล้วตกใจ เนื่องจากน้ำท่วมสูง ทำให้ตนมองไม่เห็นเส้นทาง ไฟรถถูกน้ำท่วมส่องไม่เห็นอะไรเลย ตนเลยเหยียบคันเร่งเพื่อไม่ให้รถดับ ตอนนั้นตนมองไม่เห็นว่าคลื่นน้ำที่เกิดจากรถที่ตนขับไปทำให้เกิดความเสียหาย ตนมองไปข้างหน้าอย่างเดียว หลังจากออกมาจากถนนประจักษ์ฯได้ตนตกใจมากก็ได้ขับรถกับไปบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ ที่รู้ข่าวว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะภรรยาเป็นคนบอก จึงได้มีการปรึกษากับภรรยา พ่อแม่และญาติ ก่อนจะติดต่อมาขอมอบตัว
 
ในตอนท้าย นายธีระศักดิ์ ได้กล่าวขอโทษที่ทำให้เกิดความเสียหาย ตนไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้ามาถนนประจักษ์ฯ แต่ตนจำเส้นทางไม่ได้เพราะไม่ใช่คนพื้นที่ ตนก็ไม่รู้ว่าจะขอโทษแบบไหน เหตุการณ์มันได้เกิดขึ้นมาแล้ว ก็ขอยอมรับผิด ส่วนทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายตนยินยอมที่จะชดใช้ทั้งหมด
 
ทางด้าน พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย บอกว่า เคสนี้เป็นเคสที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. ที่มีรถบรรทุกลักษณะเหมือนรถบรรทุกหกล้อมสีชมภูวิ่งผ่านถนนประจักษ์ฯ ในช่วงที่มีน้ำท่วมสูง ทำให้ทรัพย์สินของชาวบ้านและร้านค้าบริเวณถนนประจักษ์ฯ ได้รับความเสียหาย จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถทราบตัวผู้ขับขี่และเจ้าของรถคันดังกล่าว จึงได้ติดตามประสานงานให้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองหนองคาย ในส่วนของการดำเนินคดีได้มีการประสานงานเพื่อสอบปากคำไว้แล้ว ในส่วนของคดีอาญาจะเป็นข้อหาการขับรถโดยไม่คำนึงถึงทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน มีโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ.จราจร ส่วนความผิดอื่น ๆ อยู่ในระหว่างการพิจารณาต่อไป หลังแจ้งข้อกล่าวหาก็จะมีการสอบปากคำ ก่อนจะส่งสำนวนไปที่พนักงานอัยการ เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป ขณะนี้มีผู้ที่ทรัพย์สินเสียเข้าแจ้งความร้องทุกข์แล้วประมาณ 10 กว่าราย อยู่ในระหว่างการรวบรวม แล้วจะได้มีการเรียกให้เข้ามาเจรจาค่าเสียหาย
 
ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้ฝากถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนว่า ขณะนี้ถนนในตัวเมืองหนองคาย มีน้ำท่วมขังในระดับสูงหลายสาย หากรถเข้าไปวิ่งก็จะทำให้เกิดคลื่น ซึ่งจะทำให้ทรัพย์สินชาวบ้านและร้านค้าได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำแผงกั้นไปกั้นไว้ตามจุดต่าง ๆ ห้ามรถทุกคันขับขี่ไปในถนนที่มีน้ำท่วม ที่เป็นคำสั่งของเจ้าพนักงาน ผู้ใดที่ฝ่าฝืนคำสั่งของพนักงานแม้จะไม่ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ก็มีความผิดที่ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง