ยกฟ้อง เอ็ม หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ คดีละเมิดทางเพศดาราหญิง ชี้หลักฐานจำเลยมีน้ำหนัก เชื่อฝ่ายหญิงมีสติ

ยกฟ้อง เอ็ม หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ คดีละเมิดทางเพศดาราหญิง ชี้หลักฐานจำเลยมีน้ำหนัก เชื่อฝ่ายหญิงมีสติ

View icon 74
วันที่ 20 ก.ย. 2567 | 14.50 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หลักฐานจำเลยมีน้ำหนัก ศาลยกฟ้อง เอ็ม หลานชายอดีต รมว.ต่างประเทศ คดีละเมิดทางเพศดาราหญิง เชื่อฝ่ายหญิงมีสติรับรู้

วันนี้ (20 ก.ย.67) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีความผิดทางเพศ หมายเลขดำ อ.2878/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ฟ้องนายเอ็ม อายุ 36 ปี นักธุรกิจ และเป็นหลานชาย อดีต รมว.ต่างประเทศ เป็นจำเลย ในความผิดฐานกระทำชำเรา และอนาจารหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย

คดีนี้อัยการโจทก์ ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9 ส.ค.-10 ส.ค.65 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้บังอาจข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจาร น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย โดยจำเลยนำเหล้า "โซจู" ให้ผู้เสียหายดื่มจนมีอาการมึนเมา เคลิบเคลิ้ม ไม่รู้สึกตัวแล้วจำเลยได้กระทำชำเราผู้เสียหายเพื่อสนองความใคร่ โดยผู้เสียหายไม่ยินยอม และไม่อาจขัดขืนได้ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ศาลนัดพิพากษาคดีแล้ว แต่จำเลยไม่ได้มาศาลไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติกรรมเชื่อได้ว่าจำเลยหลีกเลี่ยงมาฟังการพิจารณาคดี จึงให้ออกหมายจับจำเลยมาฟังคำพิพากษา ให้ยึดเงินประกันจำเลย พร้อมนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันนี้

วันนี้ อัยการโจทก์ โจทก์ร่วม ทนายจำเลย เดินทางมาศาล ส่วนจำเลยออกหมายจับมากกว่าหนึ่งเดือนยังไม่ได้ตัว จึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า วันเกิดเหตุโจทก์ร่วมหรือผู้เสียหายได้ทะเลาะกับพี่สาวไม่อยากกลับบ้าน จึงมีการพูดคุยกับจำเลยผ่านแอปพลิเคชันไลน์สอบถามว่ามีที่พักหรือไม่ จำเลยจึงเสนอว่ามีห้องพักสามารถไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์ และนั่งฟังเพลงได้  จากนั้นผู้เสียหายและจำเลยได้เข้าไปนั่งอยู่ในห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่งสองต่อสองนาน 2 ชั่วโมง กระทั่งพี่สาวของโจทก์ร่วมมาตาม จำเลยจึงออกจากห้องพักก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องพักและอยู่ด้วยกันอีก 30 นาที

จากนั้นในเวลา 03.00 น. โจทก์ร่วมได้กลับไปยังห้องพักโดยใช้แอปพลิเคชันเรียกรถและสแกนจ่ายเงิน ก่อนจะถึงที่พักได้หลับไปโดยไม่ได้อาบน้ำและเปลี่ยนชุด และตื่นมาในตอนเช้าเข้าห้องน้ำ พบว่ามีของเหลวสีขาวออกมาจากอวัยวะเพศ จึงเรียกพี่สาวมาดูและพากันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลพบว่าของเหลวที่พบเป็นน้ำอสุจิ แต่ไม่พบสารเสพติด ยานอนหลับ และยาเสียสาว เยื่อพรหมจารีไม่ขาด โดยผู้เสียหายได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัยว่าถูกล่วงละเมิดโดยที่ไม่ยินยอมและคาดว่าถูกวางยา

ตำรวจจึงส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอีกครั้ง โดยพยานที่เป็นแพทย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ยืนยันว่าการตรวจปัสสาวะของผู้เสียหายไม่พบสารเสพติดและยานอนหลับ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตรวจเลือด แม้ผู้เสียหายมีความประสงค์จะให้ตรวจเลือด แต่หากเกิน 24 ชั่วโมงการตรวจเลือดก็ไม่เป็นผล แต่สามารถดูผลจากการตรวจปัสสาวะได้เช่นกัน

ขณะที่จำเลยได้เบิกความในชั้นสืบพยานว่า ฝ่ายหญิงเป็นผู้สมัครใจร่วมประเวณีด้วย แต่ในวันนั้นตัวเองได้สวมใส่ถุงยางอนามัย แต่พบว่าถุงยางแตก จึงได้ออกไปที่ร้านขายยาและซื้อยาคุมมาให้กิน ศาลเห็นว่าแม้วันดังกล่าว โจทก์ร่วมจะสนทนากับจำเลยว่าจะไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องงานเล่นมิวสิควิดีโอเพลงที่จะให้จำเลยสนับสนุน และมีการเปิดเพลงแนวยั่วยวน โจทก์ร่วมยังชวนจำเลยลุกขึ้นเต้น จนเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ

ในคดีนี้จากพยานมีเพียงโจทก์และจำเลยซึ่งให้การยันกันเองถึงการยินยอมและไม่ยินยอม ศาลจึงต้องรับฟังพยานหลักฐานที่เป็นการสนทนาก่อนเกิดเหตุ พิจารณาได้ว่า โจทก์มีความประสงค์ที่จะชักชวนจำเลยให้มาสนับสนุนการทำมิวสิควิดีโอเพลง เชื่อว่าไม่ได้มีเหตุผลใดเป็นพิเศษ มีข้อมูลแนะนำตัว และให้เปิดห้อง ฝ่ายจำเลยที่ออกจากบ้านกลางดึกโดยหวังว่าจะได้นั่งกินดื่ม พูดคุยกับหญิงสาวหน้าตาดี มิเช่นนั้นจึงไม่มีเหตุที่จำเลยจะต้องเสียเวลา เงินค่าห้อง อีกทั้งจำเลยยังเตรียมพกถุงยางอนามัยมา จำเลยย่อมคาดหวังว่าจะได้มีเพศสัมพันธ์กับโจทก์

ทั้งนี้ จำเลยได้แอบถ่ายคลิปภาพซึ่งโจทก์ร่วมไม่ยินยอม แต่ศาลพิเคราะห์แล้วว่าวัตถุพยานดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมเป็นพยานหลักฐานคุณภาพดี ซึ่งในคลิปแรกเป็นคลิปที่พี่สาวได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามหาโจทก์ร่วมที่โรงแรม แต่โจทก์ร่วมก็ไม่ออกไปแสดงตัว คลิปที่ 2 และ 3 เป็นการสนทนาระหว่างโจทก์ร่วมและจำเลยตามปกติ ซึ่งจะเห็นได้ว่าปรากฏภาพโจทก์ร่วมมีสติสามารถออกมาส่งจำเลยที่หน้าห้องพักของโรงแรมได้ โดยเดินออกมาด้วยท่าทางปกติ มีสติสัมปชัญญะ และสามารถเรียกรถผ่านแอพพลิเคชันกลับบ้านและจ่ายเงินเองได้ และโจทก์ร่วมได้ใส่ชุดนักศึกษา หากมีการถอดและสวมกลับโดยคนอื่นโดยไม่รู้ตัวให้เหมือนเดิม การสวมใส่กลับจะต้องมีความผิดปกติ

เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานประกอบคลิปวิดีโอ คลิปเสียงทั้งหมดแล้ว พยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักหักล้างโจทก์ว่า ขณะนั้นโจทก์มีสติสัมปชัญญะและยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักเพียงพอฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง