ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนไทยที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ส่วนใหญ่จะทำคลอดจากหมอตำแย และไม่มีการแจ้งเกิดที่อำเภอ แต่จะมาแจ้งภายหลัง ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ของขบวนการสวมสิทธิ์ชาวต่างด้าว เช่นเคสที่เราจะเล่า
นางสาวกิ่งดาว ศรีพนมวรรณ์ พร้อมญาติ เดินทางมาจากตำบลวังด้ง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อมาร้องขอให้รายการถกไม่เถียง ช่วยตามหาความจริงว่าใครเป็นคนนำชื่อตนเองไปสวมสิทธิ์
นางสาวกิ่งดาว เล่าว่า เป็นคนชนบทอาศัยอยู่บนเขา เมื่อปี 2538 แม่ได้ทำคลอดตนจากหมอตำแยที่บ้าน ไม่ได้ไปแจ้งเกิดที่อำเภอ แต่แม่ได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านให้มาเซ็นรับรองการเกิด แต่ผู้ใหญ่บ้านไม่ยอมเซ็น อ้างว่าไม่ได้เห็นตอนตัดสายสะดือ จึงไม่กล้ารับรอง ทำให้ไม่มีสัญชาติตั้งแต่นั้นมา ตนจึงปล่อยเรื่องไป เพราะอาศัยอยู่บนเขา ไม่มีความจำเป็นต้องใช้บัตรประชาชน
ต่อมาพออายุ 18 ปี ตนมีลูก จึงไปยื่นเรื่องทำเรื่องบัตรประชาชนที่อำเภอ เพราะคิดว่าบัตรประชาชนมีความจำเป็นกับตนและลูก ได้นำเอกสารยืนยันตัวตนที่ทางอำเภอร้องขอทุกอย่างไปยื่น ทางอำเภอได้แจ้งว่าจะดำเนินการให้ แต่เรื่องผ่านไปหลายเดือน ทางอำเภอกลับยังไม่ดำเนินการให้ จึงไปตามเรื่องที่อำเภอ ทางอำเภอบอกขี้เกียจหาเอกสาร ให้ตนไปทำเอกสารใหม่ไปยื่น แต่ตนก็ยังไม่ได้ไปยื่น
กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน 2567 จะไปย้ายลูกเข้าทะเบียนบ้านพี่สาว พบบุคคลอื่นใช้ชื่อนามสกุลตนในทะเบียนบ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันเซ็นรับรอง จึงเดินทางไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้าน สอบถามว่าเซ็นรับรองคนอื่นเป็นชื่อตนได้อย่างไร หน้าตาคนที่มาสวมสิทธิ์ตนก็ไม่เหมือนคนไทย แต่ผู้ใหญ่บ้านโยนให้เป็นความผิดทางอำเภอ จึงเดินทางไปแจ้งความ สภ.เมืองกาญจนบุรี แต่เรื่องก็เงียบ
