ปปง. โชว์ผลงานยึดทรัพย์ 48 คดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 4,522 ล้านบาท

ปปง. โชว์ผลงานยึดทรัพย์ 48 คดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 4,522 ล้านบาท

View icon 121
วันที่ 20 ก.ย. 2567 | 17.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปปง. ร่วมหน่วยงานภาคี แถลงติดตามยึดอายัดทรัพย์สินคดีทุจริตต่อหน้าที่-เว็บพนัน-ฉ้อโกงประชาชน 48 คดี รวม 4,522 ล้านบาท

วันนี้ (20 ก.ย.67) ที่โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการ ป.ป.ท. , นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน , พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และ นายวิทยา นีติธรรม ผอ.กองกฎหมาย โฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยดำเนินการกับทรัพย์สินกว่า 12,800 รายการ 70 รายคดี มูลค่าทรัพย์สินกว่า 4,700 ล้านบาท และมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สิน 48 รายคดี

นายเทพสุ กล่าวว่า ผลการประชุมดังกล่าว มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน 48 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 12,300 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 4,522 ล้านบาท แบ่งเป็น คดีทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ มีการยึดและอายัดทรัพย์กว่า 10,900 รายการ มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เช่น รายคดี นายภีมพงษ์ นายช่างโยธาชำนาญงาน สำนักงานโยธา กทม. กับพวก ใช้กลอุบายหลอกลวงว่าพิกัดและแนวหมุดที่ดินที่จะสร้างถนนยื่นล้ำเข้ามาในพื้นที่ของสนามกอล์ฟ อ้างว่าตนสามารถดำเนินการขยับแนวให้สนามกอล์ฟเสียพื้นที่น้อยที่สุด แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการแก้ไขแบบของโครงการฯ และเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย โดยมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์ชั่วคราวจำนวน 77 รายการ ได้แก่ ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง พระเครื่อง ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่ากว่า 26 ล้านบาท

และ รายคดี นายประมวล กับพวก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เรียกรับเงินเพื่อแลกกับการไม่ต้องชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำสั่งยึดเงินสดไว้แล้วเกือบ 7 ล้านบาท โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมกว่า 10,800 รายการ เป็นทรัพย์สินประเภทพระเครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท

นายเทพสุ กล่าวอีกว่า ส่วนความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินชั่วคราว 578 รายการ มูลค่ากว่า 1,042 ล้านบาท เช่น รายคดี นายสง่า กับพวก (เครือข่ายโกฟุก) ซึ่งมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์ชั่วคราวจำนวน 372 รายการ ได้แก่ เงินสด เครื่องประดับ ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่ากว่า 963 ล้านบาท และ รายคดี นายกฤตภพ กับพวก เครือข่ายเว็บไซต์ www.i99bet.net ซึ่งลักลอบจัดให้มีการเล่นพนันทายผลฟุตบอล โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ประเทศกัมพูชา มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวจำนวน 60 รายการ  ได้แก่ ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

สำหรับคดีการฉ้อโกงประชาชน หรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว 107 รายการ มูลค่าประมาณ 3,165 ล้านบาท ดังนี้ รายคดี นายอภิมุข กับพวก ซึ่งมีพฤติการณ์สืบเนื่องจากกรณีการทำคำสั่งซื้อขายหุ้นบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินไปแล้ว 36รายการ มูลค่าทรัพย์สินเกือบ 5,400 ล้านบาท ในการนี้ตรวจพบทรัพย์สินเพิ่มเติม จึงมีคำสั่งให้ยึดและอายัด จำนวน 19 รายการ (หุ้น และหลักทรัพย์) มูลค่ากว่า 168 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรณี นายอภิมุข กับพวกมีการแยกสำนวนการตรวจสอบทรัพย์สินในความผิดเกี่ยวกับการปั่นหุ้น เนื่องจากการตรวจสอบของสำนักงาน ก.ล.ต. และการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวน 25 รายการ (เช่น ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่ากว่า 230 ล้านบาท

รายคดี นายสฤษฏ์ กับพวก โดย ปปง. สืบสวนจากหนังสือร้องเรียนของประชาชน ซึ่งขอให้ช่วยดำเนินการคืนเงินที่ถูกอายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วพบว่า เป็นกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน โดยมีพฤติการณ์ชักชวนให้โหลดแอพพลิเคชัน เพื่อเข้าลงทุนเทรดเหรียญดิจิทัล โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวจำนวน 52 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด และบัญชีเงินฝากธนาคาร) มูลค่ากว่า 2,554 ล้านบาท และ รายคดี นายฉี ซู (MR.QU XIหรือ MR.XU QI) กับพวก เป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน การมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและความผิดฐานฟอกเงิน กรณีกลุ่มจีนเทาร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนและโอนเงินไปลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 11 รายการ (รถยนต์ ชุดสงวนเลขทะเบียน ที่ดิน และบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 213 ล้านบาท