ย้อนกลับไปเมื่อกันยายน 2540 เกิดเหตุสลดสะเทือนขวัญชาวจันทบุรี เมื่อมีระเบิดดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ราชภัฏรำไพพรรณี อ.เมืองจันทบุรี นางปัทมา อดีต สจ.จันทบุรี เสียชีวิต ตร. พุ่งเป้าไปที่การลอบสังหารนายสนิท สามีผู้ตายมากว่า ที่สุดศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิตผู้จ้างวาน มือปืน ลดโทษให้จำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (22 ก.ย.67) โดยเหตุการณ์นี้ นางปัทมา ผู้ตายขับรถยนต์ของนายสนิท เฟื่องประยูร อดีต สจ.จันทบุรี (สามี) ออกจากบ้านพัก อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อไปเรียนหนังสือที่สถาบันราชภัฏรำไพพรรณี อ.เมืองจันทบุรี ขณะที่กำลังขับรถเข้าไปที่ลานจอด เกิดเหตุระเบิดทำให้นางปัทมาเสียชีวิต
รถยนต์สภาพพังยับเยิน ประตูทั้งสี่บานเปิดกว้าง กระจกแตก ฝากระโปรงท้ายเปิดอ้า กันชนหน้าหลุด บริเวณใต้ท้องรถด้านฝั่งคนขับถูกแรงระเบิดอัดเป็นหลุมลึก 30 เซนติเมตร เก้าอี้ด้านหน้าขาดกระจุยพวงมาลัยคนขับหลุดกองกับพื้นรถ
นางปัทมา เฟื่องประยูร อายุ 51 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.เขาบ่ายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เป็นภรรยาของนายสนิท เฟื่องประยูร อดีตรองประธานสภา จ.จันทบุรี และป็นมารดาของนางคมคาย เฟื่องประยูร (พลบุตร) สส.จันทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ในขณะนั้น)
พ.ต.อ.อุดม ภาชนะ ผกก.สภ.อ.เมืองจันทบุรี (ในขณะนั้น) เล่าว่า จากการตรวจสอบสันนิษฐานคนร้ายมุ่งที่จะสังหารนายสนิท เฟื่องประยูร สามีผู้ตายมากว่าเพราะรถคันดังกล่าวเป็นรถของนายสนิทใช้อยู่เป็นประจำ แต่นางปัทมาภรรยานำมาใช้จึงรับเคราะห์แทน
ที่สุดแล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2549 ให้ประหารชีวิต นายเอกสิทธิ์ หรือ ส.จ.รักษ์ จำเลยที่ 2 และนายสิทธิพร หรือ จ่ามี จำเลยที่ 3 ฐานเป็นผู้ใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น ส่วนนาย ประสงค์ จำเลยที่ 1 และ จ.ส.อ. นิคม จำเลยที่ 4 ให้ประหารชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นเช่นกัน แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 จึงให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ 4 ไว้ตลอดชีวิต
