สนามข่าว 7 สี - การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่สำคัญอีกวาระของ นายก อบจ.ทั่วประเทศ ที่ครบวาระ 20 ธันวาคมนี้ จึงเป็นที่จับตาว่า จะมีการลาออกก่อนครบวาระหรือไม่ ที่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการเมืองระดับท้องถิ่น จะส่งผลอย่างไรกับการเมืองท้องถิ่นในอนาคต
การลาออกจากตำแหน่ง ช่วยหลีกเลี่ยงการถูกร้องเรียนและการถูกตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณช่วง 180 วันก่อนครบวาระ อีกทั้งยังช่วยควบคุมวงเงินค่าใช้จ่ายไม่ให้เกินเพดานที่ กกต. กำหนดได้ง่ายขึ้น และยังอาจเป็นการสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ยังไม่พร้อมหรือมีคุณสมบัติไม่ครบอีกด้วย
แต่การกระทำเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อประชาชนและระบบการเมืองท้องถิ่นอย่างคาดไม่ถึง ประชาชนเสียโอกาส จากการบริหารงานที่ไม่ครบวาระ การแข่งขันทางการเมืองอาจลดลง เอื้อต่อการผูกขาดอำนาจ จำนวนผู้สมัครอาจลดลงเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งปกติ และที่สำคัญทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณท้องถิ่นในการจัดการเลือกตั้งซ้ำซ้อน
ยิ่งตอนนี้ หลายพื้นที่กำลังประสบกับอุทกภัยครั้งใหญ่ ชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือจากนักการเมืองท้องถิ่น หากผู้นำท้องถิ่นลาออกกลางคัน งบประมาณขาดตอน การช่วยเหลือไปไม่ถึง สถานการณ์อาจย่ำแย่กว่าเดิมก็เป็นได้ แต่ก็มีบางคนมองว่า การลาออกช่วงที่ประชาชนทุกข์ร้อน เป็นการช่วงชิงพื้นที่ทางการเมือง ลงพื้นที่หาเสียงเรียกคะแนนได้ง่ายขึ้น
อาจารย์เจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมายมองว่าการลาออกกลางคันก่อนครบวาระ จะตีความว่าเป็นการผิดจริยธรรมโดยตรงก็คงไม่ถนัดนัก อาจเป็นการช่วงชิงพื้นที่ทางการเมือง มากกว่าซึ่งวิธีการนี้ต่างประเทศก็ทำกัน ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับไทยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากใช้โอกาสที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน หาเสียงบนความทุกข์ยากของประชาชน เตรียมตัวได้เลย นักร้องเรียน ถือเอกสารไปยื่นตรวจสอบแน่นอน
ขณะเดียวกัน ก็มีหลายข้อเสนอที่น่าสนใจ อย่างเช่น ควรจัดการเลือกตั้งทุกระดับ พร้อม ๆ กับ กำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งให้เท่ากัน เพื่อลดความได้เปรียบ เสียเปรียบทางการเมือง และการต่อตำแหน่งให้กันด้วย และที่สำคัญน่าจะต้องแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นธรรมมากขึ้นด้วย
