เจ้าของร้านมือถือ แจ้งตำรวจ หลังถูกรอง ผอ.รร.สาวสวย โพสต์กล่าวหาว่าเป็น 18 มงกุฏ หลังรอง ผอ.รร.นำโทรศัพท์มาซ่อม แต่ร้านส่งเครื่องไปซ่อมอีกสาขา เพราะมีช่างและเครื่อง ทำให้ รอง ผอ.รร.ไม่พอใจ ทั้งไลฟ์ต่อว่า ทั้งอัดคลิปโพสต์ประจาน แม้ขอโทษก็ไม่ฟัง
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 67 ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านถนนราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางกานดา อายุ 59 ปี เจ้าของร้านขายโทรศัพท์มือถือ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองถูกสาวสวย ตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังย่านดอนเมือง นำข้อมูลและข้อความไปแท็กในรายการข่าวหลายสำนัก กล่าวหาว่าตนเองเป็นมิจฉาชีพ 18 มงกุฎ ทำให้ตนได้รับความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก จึงได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ดำเนินคดีกับรอง ผอ.สาวสวยรายนี้ให้ถึงที่สุด
นางกานดา เปิดเผยต่อว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 67 เวลา 16.00 น. ได้มีหญิงสาวเป็นรอง ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง ได้นำโทรศัพท์มือถือ iPhone 14 Pro Max มาให้กับลูกน้องของตนเอง คือ น.ส.ลักขณา อายุ 27 ปี ตกลงราคาซ่อมกันที่ 3,500 บาท โดยใช้เวลาซ่อมประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากโทรศัพท์ฝาแตก มีอาการเสียหลายอย่าง ตนจึงให้ลูกน้องนำโทรศัพท์ส่งไปที่ร้านกานดา สาขาของตนเองที่ห้างสรรพสินค้าอีกแห่งที่ถนนศรีสมาน ปากเกร็ด เนื่องจากที่นั่นมีอุปกรณ์เครื่องมือพร้อมและช่างใหญ่อยู่ตรงสาขานี้
ปรากฏว่า พอ รองผอ.สาวรายนี้ ทราบก็ถึงกับโมโห โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ต่อว่าตนเองว่ามีสิทธิ์อะไรเอามือถือของเขาไปซ่อมที่ห้างอีกแห่งหนึ่ง ตนเองพยายามชี้แจงแล้ว บอกว่าเป็นร้านมือถืออีกสาขา แต่เขาก็ยังไม่พอใจ และหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปตนเองกับลูกน้องในร้าน พร้อมไลฟ์พูดจาในทำนองให้ตนเองและร้านเสียชื่อเสียง จนร้านข้างๆต่างพากันมอง ตนพยายามทุกอย่าง ทั้งขอโทษ ทั้งขอให้พูดจากันดีๆ หากไม่พอใจก็ยินดีรับผิดชอบทั้งหมด จนกว่าเขาจะพอใจ
นางกานดา กล่าวต่ออีกว่า หลังจากเขารับเครื่องออกไปแล้วไม่นาน ตนเองและลูกน้องในร้านต่างพากันตกใจแทบช็อคอย่างมาก เนื่องจากพบว่ารองผอ.สาวรายนี้ ได้นำคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้ ไปแท็กในเพจรายการข่าวดังๆหลายเพจ พร้อมข้อความหน้าคลิปว่า " ร้านแบบนี้เป็นภัยต่อสังคม หลอกลวงลูกค้า มีสิทธิ์อะไรเอาเครื่องลูกค้าไปที่อื่นไปสาขาอื่น ตกลงเปลี่ยนกระจกหลัง iPhone 14 Pro Max ซ่อมมา 3 ชั่วโมงครึ่งไม่เสร็จ มีสิทธิ์อะไรตัดสินใจแทนเจ้าของเครื่องได้ยังไง ภัยสังคม ! มิจฉาชีพ" หลังตนเองเห็นข้อความและคลิปที่เขาส่งไปในเพจข่าวแต่ละเพจ ตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เปิดร้านขายมือถือมานานกว่า 30 ปี มีลูกค้ามากหน้าหลายตา แม้กระทั่งทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ก็เป็นลูกค้าเก่าแก่กันมานาน ต่อมาตนเองจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด และพบว่าให้หลังไม่นาน ทางรองผอ.สาวรายนี้ได้ลบคลิปวิดีโอและข้อความหน้าเพจที่เขาแท็กไว้ใน เฟซบุ๊กของสามีทิ้งหมด
เจ้าหน้าที่ตำรวจและตนเองโทรหาทั้งสามีและภรรยาก็ไม่ยอมรับสายอีกเลย ซึ่งทาง พนักงานสอบสวนสภ.ปากเกร็ด บอกกับตนว่าจะออกหมายเรียก รองผอ.สาวรายนี้มาให้ปากคำ เพื่อสอบสวนเรื่องราว ขณะที่ผู้สื่อข่าวเองก็ได้โทรศัพท์ติดต่อทั้งรองผอ.สาวและก็สามีหลายครั้ง เพื่อขอสัมภาษณ์ และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย แต่ปรากฏว่าไม่ยอมรับสายทั้งคู่ ส่วนนางกานดาก็ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุดหากไม่มีการติดต่อมา
