กองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อยเกือบ 500 คน บาดเจ็บอีกกว่า 1,600 คน นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 18 ปี
อิสราเอลยังคงปฏิบัติการโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอนอย่างหนัก และต่อเนื่อง โดยวานนี้ กองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้โจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นและแหล่งอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนมากกว่า 1,300 จุด ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 492 คน บาดเจ็บกว่า 1,600 คน ทั้งนี้อิสราเอลอ้างว่า ต้องการสร้างความปลอดภัยให้กับชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือ
ในจำนวนผู้เสียชีวิตนี้ เป็นเด็ก 35 คน และผู้หญิง 58 คน ถือเป็นเหตุโจมตีข้ามพรมแดนครั้งรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในวันเดียวมากที่สุดในรอบ 18 ปี ทั้งนี้ มีรายงานว่า อิสราเอลยังอาจโจมตีครั้งใหญ่ ในเขตเวสต์แบงก์ ปาเลสไตน์ เพื่อบีบให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันอีกกว่า 100 คนที่เหลือด้วย
จากการที่กองทัพอิสราเอล แจ้งเตือนให้ชาวเลบานอนในพื้นที่ทางตอนใต้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ ทำให้ชาวเลบานอนจำนวนมาก เร่งเก็บข้าวของ และอพยพครอบครัวหนีตาย จนทำให้การจราจรติดขัด โดยส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ ให้ห่างพื้นที่เป้าหมายในการโจมตีของอิสราเอลให้มากที่สุด
ด้าน นายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ยืนยันในที่ประชุมสหประชาชาติว่า ไม่สนับสนุนให้ประเทศใด ใช้กำลังรุกรานประเทศอื่น เพื่อขีดเส้นพรมแดนของตนเองใหม่ตามใจชอบ
ขณะที่ ผู้นำโลก ต่างเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย เพิ่มความอดกลั้นมากขึ้น เนื่องจากการสู้รบเข้าใกล้สงครามเต็มรูปแบบมากขึ้นแล้ว
