ศาลปกครองยกฟ้องคดี "ชาญ พวงเพ็ชร์" ยื่นฟ้อง อบจ.-ผู้ว่าฯ ปทุมฯ

ศาลปกครองยกฟ้องคดี "ชาญ พวงเพ็ชร์" ยื่นฟ้อง อบจ.-ผู้ว่าฯ ปทุมฯ

View icon 332
วันที่ 25 ก.ย. 2567 | 18.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลปกครองกลาง ยกฟ้องคดี "ชาญ พวงเพ็ชร์" ฟ้องนายาก อบจ.-ผู้ว่าฯ ปทุม สั่งชดใช้ค่าสินไหมกรณีจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น ชี้เลินเล่ออย่างร้ายแรงไม่สอบราคาก่อนจัดซื้อ การกำหนดความเสียหายและสัดส่วนความรับผิดเหมาะสมแล้ว

วันนี้ (25 ก.ย. 67) ศาลปกครองกลาง พิพากษายกฟ้อง ในคดีที่นายชาญ  พวงเพ็ชร์ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี ยื่นฟ้องขอเพิกถอนคำสั่ง อบจ. ปทุมธานี ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของ อบจ.ปทุมธานี ในราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็น

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ฟ้องและเพิ่มเติมฟ้องว่า ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องจากการที่นายก อบจ.ปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ได้มีคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ 02390/2564 ลงวันที่ 8 ธ.ค.2564 ให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ อบจ.ปทุมธานี กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายของ อบจ.ปทุมธานี ระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ.2555-2557 ในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย

ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวจึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ) ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เห็นว่า คำสั่งและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ข้างต้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล

ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้ว เห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติแล้วว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ.2555-2556  ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ได้อนุมัติสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกาย ตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานี จำนวน 7 ครั้ง โดยมิได้สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา สืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดจากเอกชน ที่เป็นผู้ประกอบการ มาประกอบการพิจารณากำหนดประมาณการราคาในการจัดซื้อ เป็นเหตุให้ประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าว สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันในท้องตลาด

หากผู้ฟ้องคดีที่ 1 ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของ อบจ.ปทุมธานี ได้ควบคุมตรวจสอบกระบวนการและขั้นตอนในการจัดซื้อ ตลอดจนพิจารณารายงานขออนุมัติจัดซื้อในแต่ละโครงการ ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาด้วยความละเอียดรอบคอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ย่อมจะตรวจพบได้ว่า การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อตามโครงการดังกล่าว ยังมิได้ทำการสืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด การที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ลงนามอนุมัติในรายงานขออนุมัติจัดซื้อที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาโดยมิได้ทักท้วงใด ๆ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากความรอบคอบระมัดระวังที่เบี่ยงเบนไปจากวิสัยของผู้มีอำนาจอนุญาตสั่งซื้ออย่างมาก และเป็นการไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ตามตำแหน่งที่ตนดำรงอยู่

พฤติการณ์ของผู้ฟ้องคดีที่ 1 จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ อบจ.ปทุมธานี ได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าวในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด ผู้ฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ อบจ.ปทุมธานี คำนวณเฉพาะรายการเครื่องออกกำลังกาย จำนวน 8 อุปกรณ์ ในส่วนที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7 สัญญา สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด คิดเป็นเงินจำนวน 33,657,049.92 บาท

แต่อย่างไรก็ดี เมื่อ อบจ.ปทุมธานี ได้ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายกรณีดังกล่าวจากผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นเงินจำนวน 31,071,932บาท ศาลจึงไม่อาจวินิจฉัยเกินกว่าความเสียหายที่ อบจ.ปทุมธานี ใช้สิทธิเรียกร้องได้ และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เป็นเหตุให้ อบจ.ปทุมธานี ได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการข้างต้น ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด อันเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ผู้ฟ้องคดีที่ 1 จึงต้องรับผิดในความเสียหายดังกล่าว

เมื่อพิจารณาถึงระดับความร้ายแรงแห่งการกระทำและความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวแล้วเห็นว่า การที่ อบจ.ปทุมธานี มีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ อบจ.ปทุมธานีในอัตราร้อยละ 50 ของความเสียหายในส่วนที่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7 สัญญา คิดเป็นเงินจำนวน 15,535,966 บาท และให้ผู้ฟ้องคดี 1 รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 15 ของความเสียหายดังกล่าว คิดเป็นเงินจำนวน 2,330,394.90 บาท จึงเป็นการกำหนดความเสียหายและสัดส่วนความรับผิดที่เหมาะสม และเป็นคุณแก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 มากแล้ว

ดังนั้น คำสั่ง อบจ.ปทุมธานี ที่ให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ อบจ.ปทุมธานี เป็นเงินจำนวน 2,330,394.89 บาท จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่วินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่ 1 โดยอาศัยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกัน ซึ่งได้แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1 ทราบตามหนังสือ ลับมาก จึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน พิพากษายกฟ้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง