ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องนี้ ต้องบอกเลยว่า ผิดที่ไว้ใจคนใกล้ชิด ยายอายุ 84 ปี ที่เป็นผู้พิการถูกตัดขา ร้องไห้โฮกลางโรงพัก หลังถูกน้องสาวแท้ ๆ นำเงินกว่า 2 แสนไปใช้จนหมด หลังฝากสมุดบัญชีไว้
ยายพิการ ถูกน้องแท้ ๆ แอบกดเงิน 2 แสนบาท
ที่ สภ.บางศรีเมือง จังหวัดนนทบุรี ยายอายุ 84 ปี ไปแจ้งความหลังถูกน้องสาว แอบกดเงินออกจากบัญชีหายเกลี้ยง คือเมื่อก่อนเป็นคนทำงาน ค้าขายได้เงินมา ก็ฝากเข้าบัญชีธนาคารออมสินพร้อมบัตร ATM ฝากเอาไว้กับน้องสาวไว้ทั้งหมดด้วยความที่ไว้ใจ นอกจากนี้เงินเบี้ยคนชราก็เข้าในบัญชีนี้ทั้งหมด
ปลายปีที่แล้ว ยายเล่าว่า เป็นโรคเบาหวานเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ถูกตัดขาซ้าย แล้วก็นำเงินประกันของลูกชายที่เสียชีวิต เข้าบัญชีนี้ด้วย ทุกวันนี้ ไม่มีเงิน แม้แต่ที่จะซื้อก๊าซหุงต้ม มาทำกับข้าว แต่ยังโชคดีที่ได้บัญชีเงินฝากกลับมาก่อนที่เงินทางรัฐบาลเอาเงินเข้าบัญชีให้ 10,000 บาท
คืบหน้าสอบสาวคนสนิท กดเงินหมื่น
ลุง อายุ 63 ปี ที่จังหวัดอุดรธานี ถูกสาวคนสนิท แอบกด ATM เอาเงิน 10,000 บาท ที่ได้จากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ออกไปเกือบหมด เหลือติดบัญชีอยู่ 5 บาท ตอนนี้ตำรวจ สภ.น้ำโสม ได้ทำเรื่องไปที่ธนาคาร เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดเหตุตามคำให้การว่า นางแต้ว อายุ 35 ปี ที่ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นเพื่อนบ้านคนสนิท ไปกดเงินจริงหรือไม่ เพราะ นางแต้ว ก็ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้กดเงิน และได้บอกกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ว่าพร้อมที่จะไปให้ปากคำกับตำรวจ แต่ยังไม่ระบุวันเวลา
เจรจาถอนเงินหมื่นมาใช้ทำศพสามี
ส่วนเรื่องของชาวบ้านที่เกี่ยวเนื่องกับเงิน 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังมีที่อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ปรากฏว่า ครอบครัวของหญิง อายุ 42 ปี เหมือนกับจะโชคดี สองสามีภรรยาได้รับเงิน 10,000 บาท ทั้ง 2 คน รวม 20,000 บาท ตั้งใจจะนำเงินไปซ่อมประตูบ้านที่พังเสียหาย และซื้ออุปกรณ์หาปลา แต่ปรากฏว่า สามี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์ไปชนท้ายรถไถตอนไปแจ้งเรื่องสมุดบัญชีธนาคารหายไป ขอออกใหม่ ตอนที่เดินทางไปทำเรื่อง แล้วก็ไปขอผูกพร้อมเพย์ด้วย
ล่าสุด ธนาคาร ขอให้อำเภอออกหนังสือรับรองให้ภรรยา นำใบมรณบัตรของสามีมาเบิกเงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้ในครอบครัว และพิธีศพ