อิหร่านกระหน่ำยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูก โจมตีอิสราเอล แต่อิสราเอลสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ไว้ได้ ซึ่งอิหร่านอ้างว่า เป็นการตอบโต้การลอบสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส และผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ด้านอิสราเอลลั่นอิหร่านต้องชดใช้
วันนี้ (2 ต.ค. 67) สำนักข่าวของอิหร่านเผยภาพการยิงขีปนาวุธเข้าใส่กรุงเทลอาวีฟ เมืองหลวงของประเทศอิสราเอล เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในประเทศเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิหร่าน
ทางทูตอิหร่านประจำสหประชาชาติส่งจดหมายถึงคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council) ระบุว่าการยิงขีปนาวุธครั้งนี้เป็นการป้องกันตนเอง และตอบโต้การลอบสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส (Hamas) และผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งบรรยากาศที่กรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน มีประชาชนจำนวนมากออกมาเฉลิมฉลองการยิงขีปนาวุธตอบโต้อิสราเอลทั้งการชุมนุม และขับรถแห่ไปตามท้องถนน
ด้านอิสราเอล เผยว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธมากกว่า 180 ลูก ซึ่งระบบป้องกันทางอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ไว้ได้ และไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บในอิสราเอล แต่มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล กล่าวว่า อิหร่านทำผิดพลาดอย่างมหันต์ และจะต้องชดใช้
ขณะที่หน่วยเพนตากอน (Pentagon) ของสหรัฐฯ เผยว่า เรือรบของสหรัฐฯ ช่วยยิงสกัดขีปนาวุธจากอิหร่านที่ยิงไปยังอิสราเอลด้วย และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจะหารือกับชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ยังส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนพากันนำรถยนต์ออกมาต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันอย่างยาวเหยียด
นอกจากนี้ ก่อนการโจมตีของอิหร่านได้เกิดเหตุกราดยิงและไล่แทงคนในกรุงเทลอาวีฟ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน บาดเจ็บอีก 9 คน ส่วนผู้ก่อเหตุ 2 คน ถูกพลเมืองและสารวัตรตำรวจยิงเสียชีวิตด้วยปืนส่วนตัว
