เตรียมตัว1 !! กนช.เห็นชอบให้ เขื่อนเจ้าพระยา ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที
วันนี้ (5 ต.ค.67) ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที คาดการณ์สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ในช่วง 1 - 7 วันข้างหน้า ที่สถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 2,200 - 2,500 ลบ.ม./วินาที ก่อนจะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของคลองชลประทาน
ทั้งนี้ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบให้กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 2,500 ลบ.ม./วินาที แต่เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย กรมชลประทานจะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 2,400 ลบ.ม./วินาที ให้สามารถรองรับมวลน้ำเหนือ น้ำฝน ที่จะไหลลงมาสมทบในระยะนี้ได้ ซึ่งการระบายน้ำในอัตราดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60-70 เซนติเมตร อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน บริเวณ
-คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง
-อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
-วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
-อ.พรหมบุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรีวัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง
-ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท
-วัดเสือข้าม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
-อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง
กรมชลประทาน ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังจังหวัดในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป