เช้านี้ที่หมอชิต - "นายสันติ" อดีตนักมวย ที่ก่อเหตุใช้ปืนยิงสู้ตำรวจ อุตส่าห์หลบหนีตำรวจอย่างมีชั้นเชิง สุดท้ายตายน้ำตื้น ถูกจับกุมคาด่านตรวจในจังหวัดนครราชสีมา
ที่ต้องใช้คำว่าตายน้ำตื้น เพราะนายสันติสะดุดหกล้ม ขณะถูกตำรวจสภ.โพธิ์กลาง วิ่งไล่จับขณะนั่งรถแท็กซี่ต้องสงสัยผ่านเข้าไปในจุดตรวจพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วง 01.00 น. คืนวันที่ 7 ตุลาคม เพื่อมุ่งหน้าหลบหนีไป
นายสันติ ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ จึงถูกส่งไปรักษาทำแผลที่โรงพยาบาลเทพรัตน์ ยึดปืนได้ 2 กระบอก และกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก จังหวัดอำนาจเจริญ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่เมื่อช่วง 19.00 น. วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา นายสันติก่อเหตุอุกอาจ สร้างความแตกตื่นให้กับสังคม เพราะเจ้าตัวได้ยิงต่อสู้ตำรวจ สน.เตาปูน หนีหมายจับคดีลักทรัพย์ฯ จากนั้นปีนเข้าไปในบ้านคนในซอยอินทาระ 29 แยก 5 จับนายแพทย์ 2 คนขังเอาไว้ ก่อนจะฉวยโอกาสปีนขึ้นฝ้าหลบหนีไปทางหลังบ้าน
ระหว่างนั้นเมียของนายสันติ ก็มาสร้างความวุ่นวายซ้ำ ใช้ปืนขู่ยิงตัวเองริมถนนวิภาวดี ใช้ปืนจี้บังคับตำรวจขับรถ ให้พาไปในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนจะหนีเข้าป่า แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุม ดำเนินคดีไปเรียบร้อย
หลังนายสันติหลบหนี ตำรวจได้เบาะแสเพิ่มว่า นำเงิน 27,000 บาท ไปฝากเพื่อนเมียที่ซอยประชาสงเคราะห์ 28 จากนั้นก็ไปโผล่ ซอยรามคำแหง 53 เดินอยู่ในชุมชน ขโมยเสื้อที่ตากไว้ของชาวบ้าน สวมใส่อำพรางตบตาเจ้าหน้าที่เหมือนสายลับในภาพยนตร์ ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่จ้างให้พาไปส่งที่จังหวัดอำนาจเจริญ
จากนั้น นายสันติว่าจ้างแท็กซี่ ราคา 8,000 บาท ให้พาไปส่งที่จังหวัดอำนาจเจริญ และสุดท้ายก็ถูกจับกุม ตำรวจสืบสวนนครบาล 2 รับตัวกลับมาดำเนินคดีแล้ว
นายสันติยอมรับว่า ได้เหมารถแท็กซี่ให้ไปส่งที่จังหวัดอำนาจเจริญ ตั้งใจว่าหลังทำธุระเสร็จแล้วจะมอบตัว แต่มาถูกตำรวจสกัดจับกุมได้ก่อน ขอโทษตำรวจที่ตัดสินใจสู้ ขอโทษผู้เสียหายที่ทำให้เดือดร้อน
ส่วนเรื่องที่หลายคนสงสัยว่า ภรรยาของนายสันติพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ เพื่อช่วยสามีให้หลบหนีหรือไม่ นายสันติยืนยันเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้อง
แต่ที่เกี่ยวข้องจริง ๆ คือเรื่องลักทรัพย์ ตำรวจพบข้อมูลว่า เธอมีส่วนรู้เห็นในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ที่ขโมยมา โอนไปฝากไว้เพื่อน โดยเพื่อนไม่รู้นะว่าเป็นเงินได้มาจากการลักทรัพย์
ตำรวจคุมตัวนายสันติ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจและนายสันติไม่สมัครใจไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ถูกแจ้ง 6 ข้อหา แบบอ่วม ๆ