ผู้เสียหาย นัดร้องทุกข์ตรวจสอบธุรกิจดัง

View icon 37
วันที่ 10 ต.ค. 2567 | 07.01 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - วันนี้จะมีผู้เสียหายรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ. และ สคบ. เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัทขายตรงสินค้าชื่อดัง ที่มีดาราเป็นพรีเซนเตอร์ ว่าเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่หรือไม่

เหตุที่ทำให้ผู้เสียหายคิดแบบนี้ เพราะการจะทำธุรกิจนี้ได้ต้องเริ่มต้นจากการซื้อผลิตภัณฑ์ ในราคาเริ่มต้น 590 บาท หากสั่งซื้อจำนวนมากขึ้น ราคาต่อหน่วยก็จะถูกลง ๆ สามารถซื้อได้ถูกสุด 300 บาท แต่ต้องซื้อ 60,000 กล่อง ซึ่งก็จะมีรางวัลจูงใจในแต่ละขั้นบันได ตั้งแต่ทริปไปเที่ยวต่างประเทศใกล้-ไกล ไปจนถึงได้รับรถ BMW หรือรับเป็นเงินคืนประมาณ 1 ล้านบาท

พอผู้ที่สนใจอยากเป็นตัวแทนการขายก็จะต้องเข้ารับการอบรม แต่ในการอบรมนั้น คนที่มาแชร์ประสบการณ์ บอกว่า ไม่เคยได้รับคำแนะนำสอนขายสินค้าออนไลน์ มีเพียงการสอนตัดคลิป ทำโฆษณา และเชิญชวนคนเข้าเครือข่าย ยอมรับว่า ระหว่างนั้นได้เจอดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์อยู่บ้าง แต่มาในลักษณะของการเชิญชวนซื้อสินค้าในเครือบริษัท ส่วนสินค้าที่ซื้อมาก็ขายออกยากเพราะมีราคาสูง ซึ่งหนึ่งในคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์มาขายต่อ ยังบอกด้วยว่า เคยมีคนเตือนให้ระวัง แต่เพราะเชื่อมั่นว่าไม่ถูกหลอก ถึงต้องเสียเงินไปกว่า 500,000 บาท

ไม่ต่างจากผู้เสียหายอีกคน ที่โทร.มาเล่าความเดือดร้อนให้ฟังว่า กู้ยืมเงินมาลงทุนกว่า 250,000 บาท แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทำกำไรได้จริง จนเครียดถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย บช.สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ และ บก.ปคบ. ตั้งเป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวน และเตรียมรับแจ้งความจากผู้เสียหาย ที่นัดหมายจะไปพบตำรวจในวันนี้ ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้เปิดสายด่วน 1599 เพื่อเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุให้กับผู้เสียหาย และส่งต่อข้อมูลทางคดีให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ

ขณะที่เมื่อวานช่วงหัวค่ำ "แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี" ดารานักแสดง ออกมาเปิดใจพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ระหว่างไปถ่ายทำละคร ยอมรับว่า ตำแหน่ง "ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์" มีปรากฏในสัญญาตอนที่ต้องเซ็นรับงานนี้จริง แต่ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการสั่ง หรือกำหนดทิศทางใด ๆ เชื่อว่าตั้งขึ้นมาเพื่อให้เกียรติกันเฉย ๆ ยอมรับว่า ความเป็นดารานักแสดง อาจเป็นแรงจูงใจให้คนซื้อสินค้าเยอะ ที่ผ่านมาเคยไปบรรยายให้ความรู้พูดเกี่ยวกับข้อควรระวังต่าง ๆ ตนเองก็ไม่ได้มีส่วนได้เสียในธุรกิจของใคร เงินที่ได้รับมาจากส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นได้ ตนเองไม่มีหุ้นส่วน หรือเคยได้รับเงินปันผลอื่น ๆ ไม่เคยประชุมผู้ถือหุ้น เพราะคนที่เป็นกรรมการบริษัทนี้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น

ทั้งนี้ ยังย้ำว่าไม่เคยทราบมาก่อนเรื่องที่มีคนเครียด จนเป็นเหตุให้คิดสั้นฆ่าตัวตาย และจากการหารือกับ "บอสพอล" ก็ยืนยันว่า พร้อมจะชี้แจงข้อเท็จจริง หรือหากมีหมายเรียกก็พร้อมจะเข้าพบตำรวจ ไม่หลบหนี

สอดคล้องกับที่ "บอสพอล" ผู้บริหารบริษัทฯ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความสำคัญเป็นการยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งเฉย กำลังรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมชี้แจงต่อสังคม ยืนยันว่า ไม่หลบหนี พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ หากตำรวจเรียกให้เข้าพบก็พร้อมไปชี้แจงข้อเท็จจริง ดรามาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ยอมรับว่า ไม่เคยรู้มาก่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง