เช้านี้ที่หมอชิต - มาที่เรื่องเงิน 10,000 บาท ที่ได้รับจากรัฐบาลกันไปแล้ว แต่มีผู้ป่วยติดเตียงในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้รับเงินโอน แต่กลับเบิกเงินไม่ได้ ติดต่อธนาคารก็บอกต้องรอปีหน้าจะมาให้บริการที่บ้านปีหน้า แต่เรื่องนี้ล่าสุดก็มีข่าวดี เป็นอะไรเดี๋ยวไล่เรียงกันทีละประเด็น
ผู้ป่วยติดเตียงเศร้า ถอนเงินไม่ได้
สามีของนางจำลอง อายุ 61 ปี ซึ่งป่วยติดเตียง อยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ร้องขอให้ธนาคารช่วยเหลือภรรยา ซึ่งได้เงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท แต่เบิกเงินออกมาใช้ไม่ได้ เพราะบัตรกดเงินสดถูกระงับ และไม่สามารถนำสมุดบัญชีไปเบิกเงินแทนภรรยาได้ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ธนาคาร บอกต้องให้เจ้าของบัญชีมาดำเนินการเอง หากจะให้เจ้าหน้าที่ไปบริการที่บ้าน ต้องรอหลังปีใหม่ไปแล้ว
จริง ๆ ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนดีใจมาก ที่ได้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล 10,000 บาท หวังนำไปซื้อของจำเป็นในการใช้ชีวิต แต่ก็ผิดหวัง
ทีนี้มาดูหลังเกิดกรณีนี้ ธนาคารก็ออกมาแอกชันเร็ว ไปที่บ้านผู้พิการทันที พร้อมอธิบายทำความเข้าใจ ว่า บัตรเอทีเอ็ม ใบเดิมใช้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินในบัญชีหักค่าธรรมเนียมรายปี ๆ ละ 200 บาท
ส่วนที่สามีของนางจำลอง ได้รับแจ้งต้องรอปีหน้า อาจเข้าใจคาดเคลื่อน เพราะช่วงนี้ลูกค้าไปใช้บริการที่ธนาคารเยอะ และปกติธนาคารก็จะออกให้บริการนอกสถานที่กับลูกค้าที่มีภาวะพิการหรือ ป่วยติดเตียงตามบ้านอยู่แล้ว เหมือนกับครั้งนี้ที่ก็ได้ทำบัตรเอทีเอ็มใบใหม่ให้นางจำลอง ซึ่งจะใช้ได้ทันทีหลัง 1 ชั่วโมงไปแล้ว
ก็นับเป็นข่าวดี ทีนี้มาฟังเสียงของคุณจำลองกันบ้างหลังธนาคารเข้าช่วยเหลือแบบนี้ เตรียมจะนำเงินที่ได้ไปใช้อะไรบ้าง
เตือนผู้พิการแก้ข้อมูลรับเงิน 10,000 บาท 22 ต.ค. 67
ทีนี้แจ้งเตือนกันต่อเลยกับ กลุ่มผู้พิการ ราว 10,000 คน ที่ยังไม่ได้รับเงินโอน ให้รีบปรับปรุงข้อมูล ทั้งการต่ออายุบัตรผู้พิการ ตรวจสอบสถานะบัญชีเงินฝากธนาคาร เลขบัญชี ที่แจ้งไว้ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งควรดำเนินการให้เสร็จภายในวันนี้
เพื่อให้ทันรับเงิน 10,000 บาท ของกลุ่มตกหล่นล็อตแรกในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ หากช้ากว่านี้ก็อาจจะได้รับเงินโอนในวันที่ 22 ของเดือนถัดไป แต่หากยังไม่ดำเนินการใด ๆ จนเกินวันที่ 3 ธันวาคมไปแล้ว จะถือว่าท่านไม่รับสิทธิเงิน 10,000 บาทในครั้งนี้
