ธีรยุทธ หอบเอกสาร 5,080 แผ่น ร้อง พท.

View icon 43
วันที่ 10 ต.ค. 2567 | 11.05 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรียกได้ว่ามาตามนัด 07.00 น. นายไพบูลย์ส่งข้อความแจ้งสื่อมวลชนว่า นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร จะไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าพรรคเพื่อไทยมีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองหรือไม่ แต่นายไพบูลย์ยืนยัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวพลังประชารัฐ

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร เป็นการยื่นคำร้องให้ศาลฯ วินิจัยตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ โดยในคำร้องมี 65 หน้า และเอกสารประกอบคำร้อง อีก 5,080 แผ่น เพื่อขอให้ศาลฯ พิจารณา

คำร้องนี้เคยยื่นให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยแล้ว ตั้งแต่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เรื่องยังเงียบ เมื่อครบ 15 วัน จึงใช้สิทธิยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง ซึ่งคำร้องดังกล่าวคล้ายกับคดีการยุบพรรคก้าวไกล คือ พรรคเพื่อไทยมีพฤติกรรมเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติและสถาบันพรรคการเมือง

เช่น นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่กลับใช้พรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องมือ ในฐานะแกนนำรัฐบาล สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ต้องรับโทษในเรือนจำแม้แต่วันเดียว และสมคบคิดกับต่างชาติอาจทำให้เสียดินแดน อีกทั้งยังเป็นการครอบครองและครอบงำการเมือง แกนนำตั้งรัฐบาล นายทักษิณเป็นผู้เจรจาจัดตั้งรัฐบาลสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า

ซึ่งหากเทียบเคียงกับการยุบพรรคก้าวไกล นายธีรยุทธร้อง 2 ครั้ง ครั้งแรก ขอให้วินิจฉัยว่าเสนอแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ และเมื่อศาลฯ วินิจฉัยว่าเป็นปฏิปักษ์และเป็นการล้มล้างการปกครอง ก็ไปยื่นให้ กกต. ส่งศาลฯ วินิจฉัยยุบพรรค ตามกฎหมายพรรคการเมือง

หลังจากนี้ ศาลฯ จะวินิจฉัยว่าจะรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่ หากรับไว้พิจารณาก็จะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนพยาน ถ้าไม่รับคำร้องก็ตกไป อาจใช้เวลาเป็นปีกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย ยกตัวอย่างพรรคก้าวไกล ศาลรับไว้พิจารณา 16 มิถุนายน 2566 และมีคำวินิจฉัยยุบพรรควันที่ 7 สิงหาคม 2567

สำหรับนายธีรยุทธ ร้องยุบพรรคก้าวไกลได้สำเร็จ ส่วนนายไพบูลย์ เคยร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติมาแล้ว ก็ต้องรอดูว่าครั้งนี้จะเป็นผลงานสร้างชื่อให้กับทั้ง 2 คน ได้หรือไม่ แม้ว่านายไพบูลย์จะปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้องครั้งนี้ก็ตาม