บุกค้น 9 จุด The iCon Group หลักฐานเพียบ  ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา "บอสพอล"

บุกค้น 9 จุด The iCon Group หลักฐานเพียบ ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา "บอสพอล"

View icon 308
วันที่ 12 ต.ค. 2567 | 18.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจสอบสวนกลางบุกค้น 9 จุด The iCon Group พบพยานหลักฐานจำนวนมาก ส่วนวันนี้ ตำรวจยังไม่แจ้งข้อหา "บอสพอล"  เตรียมปล่อยกลับบ้าน

(12 ต.ค.67) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังพร้อมหมายค้นของศาลอาญาเข้าตรวจค้นสำนักงานของบริษัท The icon group จำกัด และสถานที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น โกดังเก็บสิน บริษัทบัญชีในเครือข่าย รวม 9 จุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสามารถตรวจยึดเอกสารบัญชีของสำนักงานตั้งแต่ปี 2563 - 2565 เครื่องคอมพิวเตอร์และฮาร์ดไดร์ฟเก็บข้อมูลต่างๆ มาตรวจสอบ

เบื้องต้นพลตำรวจตรีโสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นได้สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไว้แล้วบางส่วน รวมทั้งพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารเกี่ยวกับเรื่องงบดุลของบริษัท รวมถึงยังพบผลิตภัณฑ์ของบริษัทบางส่วนในโกดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำมาตรวจสอบหาความเชื่อมโยงว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายใดหรือไม่ และกลุ่มแม่ทีมต่างๆ ส่วนใหญ่ผู้เสียหายรู้จักเพียงชื่อเล่น ทำให้ตำรวจต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลก่อนที่จะพิจารณาดำเนินคดี

ส่วนวันนี้ที่ บอสพอล รวมถึงกลุ่มบอสดารา ชิงเข้าพบพนักงานสอบสวน ก่อนที่จะมีการออกหมายจับนั้น พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. บอกว่า เป็นสิทธิ เนื่องจากตอนนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ แต่อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนก็จะมีการแจ้งพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหากับ "บอสพอล" เนื่องจากมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ในข้อหาความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

ดังนั้นจึงถือว่า "บอสพอล" ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว แต่พนักงานสอบสวนยังต้องขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานแล้วจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง ส่วนจะขออนุมัติศาลออกหมายจับอยู่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนที่จะพิจารณาตามเหตุจำเป็น ดังนั้นวันนี้ตำรวจยังไม่มีอำนาจควบคุมตัว "บอสพอล" หลังสอบปากคำเสร็จ ก็จะปล่อยตัวไป เช่นเดียวกับกลุ่มบอสดาราคนอื่นๆ

ส่วนที่สังคมกังวลว่าหากปล่อยตัวแล้วอาจเป็นช่องว่างให้กลุ่มบอสชิงหลบหนีออกนอกประเทศระหว่างนี้นั้น ก็ยืนยันว่าตำรวจมีมาตรการในการป้องกันด้วยการประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้เฝ้าระวังกลุ่มบอสแล้ว

ส่วนคดีนี้จะเข้าอำนาจเป็นคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการหารือ แต่ที่ผ่านมาดีเอสไอก็มีการประสานข้อมูลร่วมสืบสวนมาโดยตลอด แต่ไม่ว่าจะมีการโอนสำนวนให้ดีเอสไอดำเนินการต่อหรือไม่นั้น ตำรวจก็จะร่วมสืบสวนสอบสวนด้วย เพื่อให้ข้อมูลเกิดความรัดกุมในทุกมิติ

นอกจากนี้ สังคมยังได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเลขบัตรประชาชนของบอสพอลที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่เคยถือ 2 สัญชาติหรือไม่นั้น หรืออาจเป็นกลุ่มทุนต่างชาติสีเทาที่เข้ามาหาประโยชน์ในการทำธุรกิจกับประชาชนคนไทยหรือไม่นั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

สำหรับยอดผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความวันนี้ มี 235 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียหายตอนนี้มีทั้งสิ้น 488 คน ยอดความเสียหาย 178 ล้านบาท ทั้งนี้ฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด สามารถแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ได้ โดยไม่ต้องมาแจ้งความที่ บก.ปคบ. ซึ่งตำรวจท้องที่จะส่งสำนวนมารวมที่ บก.ปคบ. ทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง