รวบคาสนามบิน ป.ป.ช. ร่วม ตม. จับครูชำนาญการพิเศษ ทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันนักเรียน 25 ครั้ง กว่า 800,000 บาท
วันนี้ (15 ต.ค.67) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ทำการจับกุม นางผ่องฉวี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ 48/2567 ลงวันที่ 10 ก.ย.67 ซึ่งต้องหาว่าเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 91
โดยนางผ่องฉวี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ถอนเงินโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนในจังหวัดสกลนคร โดยระหว่างวันที่ 25 ธ.ค.58 ถึงวันที่ 16 ม.ค.60 นางผ่องฉวีได้จดแจ้งจำนวนเงินลงในใบถอนเงินมากกว่าจำนวนเงินที่จะใช้ดำเนินโครงการอาหารกลางวัน จากบัญชีเงินอุดหนุนอาหารกลางวันเด็กประถม จำนวน 25 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 871,280 บาท แล้วเบียดบังเงินค่าอาหารกลางวันส่วนที่มากกว่าดังกล่าวไปเป็นของตนโดยทุจริต
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทราบว่านางผ่องฉวี จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ดำเนินการร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยจัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบตามช่องตรวจ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. พบนางผ่องฉวี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้นางผ่องฉวีดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นางผ่องฉวีรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อบันทึกการจับกุม และจะนำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป