ออกหมายจับแล้ว อดีตประธานสหภาพแรงงานฯ ลวงข่มขืนเด็กพิการ 2 พี่น้อง มากว่า 2 ปี โดยมีการข่มขู่ผู้เสียหาย ลั่น ทำอะไรไม่ได้หรอก หลักฐานไม่มี ให้สู้ถึง 5 ศาลก็ตาม แต่สุดท้ายถูกออกหมายจับ
จากการที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนมาจากครอบครัวของ นางดาว อายุ 31 ปี แม่ของ ด.ญ.ฟ้า อายุ 15 ปี ไม่ได้เรียนหนังสือ เนื่องจากเป็นเด็กพิการด้านสมอง กับ ด.ญ.ฝน อายุ 14 ปี อยู่ชั้น ป.6 ครอบครัวนี้อยู่ในเขตพื้นที่ อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ว่า ลูกสาวทั้ง 2 คนของนางดาว นั้นได้ถูก นายแว่น อดีตประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง อายุ 67 ปี ได้ล่อลวงข่มขืนตั้งแต่ ด.ญ.ฟ้า อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ฝน อายุ 12 ปี จนถึงเดือน เมษายน 2567 เป็นระยะเวลากว่า 2 ปี
นางดาว เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวตัวเองมีฐานะยากจน มีลูก 4 คน คือ ด.ญ.ฟ้า ด.ญ.ฝน และลูกขายเล็กอีก 2 คน ที่บ้านมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและเผาถ่านขาย อยู่บ้านไม้ 2 ชั้น ที่ผุพังโดยชั้นบนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ต้องนอนชั้นล่างใต้ถุนบ้าน ห้องน้ำก็ไม่มีต้องอาศัยห้องน้ำวัดที่อยู่ใกล้เคียง สมัยตนตอนยังเล็กเคยไปทำงานรับจ้างที่บ้านของ นายแว่น ผู้ก่อเหตุ มาก่อน แต่ตอนนั้นไม่มีอะไร ต่อมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้ให้ลูกสาวทั้ง 2 คนไปทำงานพิเศษหารายได้ โดยไปรับจ้างทำความสะอาดที่บ้านของ นายแว่น โดยที่ไม่คาดคิดเลยว่าจะเกิดอะไรกับลูกสาวทั้ง 2 คน
จนกระทั่งเดือน เมษายน 2567 ที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่าลูกสาวทั้ง 2 คนไม่ค่อยอยากไปทำงานที่บ้านหลังดังกล่าว และชอบทะเลาะกัน ตนจึงไปถามลูกว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ลูกสาวทั้ง 2 คนก็จะเงียบจนตนต้องขู่ว่าจะตีถ้าไม่ยอมเล่า ในที่สุดลูกสาวก็เล่าให้ฟังว่า โดน นายแว่น ข่มขืน และโดนบังคับให้ถอดเสื้อผ้า แล้ว นายแว่น ก็ถ่ายรูปภาพเปลือยของลูกสาวตน และข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใครไม่งั้นจะฆ่าพ่อกับแม่ จากนั้นก็ได้ข่มขืน ด.ญ.ฝน ก่อน แต่ขณะนั้น ด.ญ.ฟ้า มาเห็น ด.ญ.ฝนจึงรีบออกจากห้องแล้วก็พยายามเลี่ยงให้อยู่ห่างจาก นายแว่น มาโดยตลอด และ ด.ญ.ฟ้าก็โดนล่อลวงข่มขืนประมาณ 4-5 ครั้ง ตนเลยพาลูกทั้ง 2 คนไปแจ้งความที่ สภ.ค่ายบางระจัน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมา
นางดาว ยังเผยอีกว่า รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากไว้ใจเขามากถึงเขาไม่ใช่คนในจังหวัดสิงห์บุรี แต่ก็มาซื้อบ้านในพื้นที่กว่า 10 ปี ตนก็ยังเคยไปรับจ้างทำงานที่บ้านเขามาก่อน พอมารุ่นลูกตนก็ยังให้ไปรับจ้างต่อ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำกับลูกสาวเราแบบนี้ พอ นายแว่น รู้ว่าตนไปแจ้งความ ก็ต่อว่าหาว่าใส่ร้ายเขา เขาไม่ได้ทำ แต่ให้คนแถวบ้านมาเคลียร์ว่าเอาเงินให้ห้าหมื่นก็พอ และรถเครื่อง 3 คันจะยกให้ แล้วก็ให้จบเรื่องไปถอนแจ้งความ และให้ทนายมาขู่ถึงบ้านว่าทำอะไรเขาไม่ได้หรอก หลักฐานก็ไม่มี ให้สู้ถึง 5 ศาลก็ตาม
ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.67 เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ประพันธ์ จำปานวน สารวัตร (สอบสวน) สภ.ค่ายบางระจัน และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรค่ายบางระจัน ได้นำหมายจับมาค้นบ้านและนำตัว น้องฟ้า กับ น้องฝน ผู้เสียหาย มาชี้ยังสถานที่เกิดเหตุที่บ้านหลังเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อ่านหมายจับนั้น คนเฝ้าบ้านไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป และบอกว่า “เจ้าของบ้านไม่อยู่และผมจะเปิดบ้านให้เข้าได้ยังไง ผมไม่ใช่เจ้าของบ้าน ผมเป็นคนที่อยู่อาศัย” แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอธิบายยังไง ก็ไม่ยอมเปิด จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เปิดประตูเข้าไปตามหมายค้นที่นำมา และเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบ นายแว่น ผู้ต้องหา และเมื่อโทรศัพท์ไปสอบถามได้รับคำตอบว่า นายแว่นไปฟอกไตที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร และเมื่อกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว จะเข้าไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวนในทันที หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา น้องฟ้า และน้องฝน ผู้เสียหาย ไปชี้สถานที่เกิดเหตุที่ถูก นายแว่น กระทำชำเราตามที่กล่าวอ้าง และถ้าผู้ต้องหาไม่มามอบตัว ก็จะตามจับตัวตามหมายจับ แต่ถ้ามามอบตัวก็จะสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามข้อเท็จจริงต่อไป