ผู้เสียหายร้องถูกมิจฉาชีพอ้างมีกองทุนน้ำมันที่ประเทศไนจีเรีย หากระดมทุนจะได้ค่าตอบแทน 20 เท่า นำไปพัฒนาประเทศ ที่แท้ไม่มีอยู่จริง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท
ล่าสุด (21 ต.ค. 67) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ที่ปรึกษามูลนิธิเป็นหนึ่ง พาตัวแทนผู้เสียหายซึ่งเป็นประชาชน เข้าร้องเรียนตรวจสอบที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ผู้เสียหายเล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2565 โดยมีการส่งลิงก์ไลน์กลุ่ม อ้างว่า เป็นกองทุนน้ำจากประเทศไนจีเรีย ซึ่งขุดพบตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยมิจฉาชีพจะเน้นเหยื่อที่มีความรักในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีข้อเสนอ หากลงทุนจะได้ค่าตอบแทน 20 เท่า รวมไปถึงจะนำเงินไปพัฒนาประเทศ พัฒนาบ้านเกิดของแต่ละคน โดยจะแบ่งกลุ่มการลงทุนในแต่ละภูมิภาค
ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ ขายที่ดิน จำนองไร่นามาลงทุน เพราะเชื่อว่าจะได้ค่าตอบแทน ภายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 แต่กลายเป็นกลับมีการขอระดมเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน โดยตั้งยอดในแต่ละวัน หากทำไม่ถึงจะมีค่าปรับ วันละประมาณ 7-8 แสนบาท
โดยผู้เสียหายได้เจอตัวของมิจฉาชีพเพียง 1 ครั้ง เป็นการมิตติ้ง ที่ต้องเสียค่าเข้า โดยมีการโชว์เอกสารปลอม รวมไปถึงภาพถ่ายหน้าสถานทูตที่ประเทศไนจีเรีย เพื่อโน้มน้าวให้ผู้เสียหายเสียเงินมากยิ่งขึ้น
แต่นานวันเข้ากลับไม่เคยได้รับค่าตอบแทนอย่างที่อ้างไว้ ผู้เสียหายจึงมีการรวมตัวการติดต่อไปยังสถานทูตที่ประเทศไนจีเรียสอบถามถึงกองทุนที่ได้มีการแอบอ้าง พบว่าไม่มีอยู่จริง จึงรู้ว่าที่ทำมาทั้งหมดเป็นเพียงกลโกงของมิจฉาชีพ จนทราบว่า มีผู้เสียหายกว่า 240 คน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 80 ล้านบาท เมื่อพยายามติดต่อกลับไปก็โดนลบออกจากไลน์กลุ่ม พร้อมข่มขู่ห้ามแจ้งความโดยเด็ดขาด ผู้เสียหายไร้หนทางจนต้องมาขอความช่วยเหลือ