ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามกันต่อ กรณี "วงแชร์แคร์รอต" กลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทำให้หลายวงการตกเป็นเหยื่อ โดยเฉพาะวงการสงฆ์ เราส่งทีมข่าวไปดูที่สำนักเรียนของพระแห่งหนึ่ง ดูว่าจะมีพระรูปไหน เคยโดยชันชวนบ้างหรือไม่ ?
ที่สำนักเรียนของพระแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร ทีมข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับพระที่มาศึกษาเล่าเรียน ว่ารู้จัก "วงแชร์แคร์รอต" หรือไม่ ? ซึ่งพระหลายรูปบอกว่า พอได้ทราบข่าวบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยเจอกับตัวเอง ยืนยันว่าสถานที่แห่งนี้ คัดกรองคนเข้าออกไปมา ไม่มีองค์กร หน่วยงานใด ที่เข้าข่ายชวนลงทุน เปิดพอร์ต เทรดหุ้น เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ มีเพียงหน่วยงานราชการ หรือโรงพยาบาล ที่เข้ามาให้ความรู้พระ-เณร เท่านั้น ซึ่งต้องผ่านการขออนุญาตจากทางเจ้าอาวาสก่อน
พระ-เณร นำปัจจัยจากญาติโยม ไปลงทุนทำกำไรได้หรือไม่ ? เรื่องนี้ สอบถามไปยัง พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ เจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย บอกว่า ทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่ผิดหลักพระธรรมวินัย ศาสนาพุทธไม่ให้รับเงินจากโยม แล้วนำไปลงทุน เพื่อค้ากำไร หรือเก่งกำไร
จึงขอเตือนพระ-เณรอย่าหลงผิด จนกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะทุกวันนี้ภัยสังคมมีอยู่รอบตัว มารศาสนาหากินกับพระ เพราะว่าพระมีจิตเมตตา หากหลอกพระได้ พระอาจพาลูกศิษย์ที่เคารพนับถือ ชักชวนกันจนหลงผิดติดกับดักมิจฉาชีพ
ด้าน ผู้ช่วยศาตราจารย์หยกฟ้า อิศรานนท์ รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า คำพูดโน้มน้าว กับดักชวนลงทุน มี 2 มิติ คือ ความต้องการที่อยากจะรวย และการตัดสินใจในเวลาเร่งด่วน จำง่าย ๆ "รวยไว และ ต้องไม่พลาด" ลักษณะคำพูดแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นการโน้มน้าวชวนลงทุน