พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

View icon 24
วันที่ 25 ต.ค. 2567 | 20.03 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 17.18 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โอกาสนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ในการนี้ ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ ใกล้สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 และพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

แล้วทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะฯ" จบ 3 หน แล้วทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้า ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2 แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน) พระราชอุปัธยาจารย์ ซึ่งประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาส์นสงฆ์ พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ จบแล้ว ทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน จากนั้น ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ประเพณีกฐิน มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 คือหลังจากวันออกพรรษา ซึ่งการถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอารามหลวง หรือ กฐินหลวง เป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครศาสนูปถัมภก จะเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์ หรือ ผู้แทนพระองค์นำไปถวายยังพระอารามหลวงสำคัญ 16 พระอาราม

เวลา 18.05 น. เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ใกล้เจ้าอาวาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงหยิบผ้าห่มสำหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา เมื่อเจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบบังคมทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์จบ ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้านั้นพาดระหว่างพระกร แล้วประนมพระหัตถ์ผินพระพักตร์สู่พระประธาน ทรงว่า "นะโม ตัสสะฯ" จบ 3 หนแล้ว ผินพระพักตร์สู่ที่ชุมนุมสงฆ์ กล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้า ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2

เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมเสร็จ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ซึ่งประดิษฐานที่โต๊ะหมู่ ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาสน์สงฆ์ พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ จบ พระสงฆ์ที่สดับปกรณ์ และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จกลับมานั่งอาสน์สงฆ์ ทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

ในการนี้ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 แห่งราชวงศ์จักรี เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สถาปนาวัดโพธาราม วัดเก่าที่เมืองบางกอก เป็นวัดหลวงข้างพระบรมมหาราชวัง พระราชทานนามใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ" ที่ฐานชุกชีประดิษฐานพระพุทธเทวปฏิมากร พระประธานพระอุโบสถ บรรจุพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปลี่ยนท้ายนามวัดเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" มีสถาปัตยกรรมและสิ่งสำคัญ อาทิ พระวิหารพระพุทธไสยาส หรือวิหารพระนอน, พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล, พระระเบียง, เขามอและเขาฤๅษีดัดตน, พระมณฑป หรือ หอไตรจัตุรมุข ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สถาปนา, พระวิหารทิศ, พระวิหารคด, ซุ้มประตูทรงมงกุฎ, พระมหาสถูป, ตุ๊กตาจีน และกำแพงแก้ว ปัจจุบัน มีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ จำพรรษา 150 รูป สามเณร 33 รูป

จากนั้น ทรงเปิดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ประจำปี 2567 ซึ่งกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย นวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม" เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี รวมทั้งให้คนไทยได้ร่วมรำลึกถึงพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่มีต่อการคุ้มครองรักษาภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และสร้างความเข้าใจ ความเชื่อมั่น ยกระดับ และนำไปใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรไทย

ภายในงานฯ มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย" พระอัจฉริยภาพ 7 ด้าน, สาธิตภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และสมุนไพรอัตลักษณ์ประจำจังหวัด, หมอพื้นบ้านของดี ของแท้ขั้นเทพ, เมืองสมุนไพรและเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, นิทรรศการอาหารถิ่น กินเป็นไม่ป่วย, ให้บริการด้านการแพทย์แผนไทย นวดไทยนวดพื้นบ้าน นวดอัตลักษณ์ 4 ภาค, ร้านแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอาหารสุขภาพจากทั่วประเทศ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้จนถึงวันที่ 29 ตุลาคมนี้

ข่าวอื่นในหมวด