เช้านี้ที่หมอชิต - ผู้ประกอบการขายผลไม้ในจังหวัดสตูล เดือดร้อน หลังการนำเสนอข่าวพบสารพิษตกค้างในองุ่นไชน์มัสกัต
เจ้าของร้านผลไม้เดือดร้อนหนัก ขายองุ่นไม่ได้
ตามที่เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ร่วมกับนิตยสารฉบับหนึ่ง สุ่มตรวจ องุ่นไชน์มัสกัต 24 ตัวอย่าง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสุ่มตรวจสารเคมีเกษตรมากกว่า 400 ชนิด พบสารเคมีเกษตรตกค้างเกินค่ามาตรฐานมาก
แม้ว่าภายหลังเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา จะออกมาระบุว่า ข้อเท็จจริงแล้วผลการตรวจพบว่ามีสารกำจัดศัตรูพืชเกินเพียงเล็กน้อย และเป็นสารกำจัดศัตรูพืชที่อยู่ในระดับสากล ไม่ได้จัดอยู่ในรายการเฝ้าระวัง เนื่องจากไม่มีข้อมูลการก่ออันตราย สามารถรับประทานได้ หากล้างให้สะอาดและถูกวิธี แต่กระแสข่าวที่ออกมาครั้งแรกส่งผลกระทบกับร้านผลไม้ในพื้นที่จังหวัดสตูล ทำให้ขายองุ่นไชน์มัสกัตไม่ได้ต้องทิ้งทุกวัน
เจ้าของร้านผลไม้ บอกว่า กระแสข่าวดังกล่าวแรงมาก ทางร้านเองก็กลัว ไม่กล้าเชียร์หรือเสนอขายให้ลูกค้า ทุกครั้งที่สั่งซื้อผลไม้ก็จะสั่งครั้งละเยอะ ๆ เป็นล็อต ไม่งั้นจะไม่ได้กำไร เพราะต้นทุนสูง พอมาเกิดเรื่องแบบนี้จะเอาสินค้าไปไหน ใครจะมาช่วยรับผิดชอบ
แม่ค้าถาม ทำไมภาครัฐไม่ดูแลผักผลไม้นำเข้า
เวลาพ่อค้า แม่ค้า ไปซื้อมาขาย เขาต้องซื้อยกลัง เพราะราคามันจะถูกลง เมื่อก่อนขายกันกิโลกรัมละ 300 บาท คนแย่งกันซื้อ ตอนนี้ลดเหลือกิโลกรัมละ 80 บาท กลับต้องเททิ้ง เพราะคนกลัวสารพิษตกค้างในองุ่นไชน์มัสกัต ตอนนี้พอขายได้ ถ้าลดเหลือกิโลกรัมละ 20 บาท
พ่อค้าแม่ค้าฝากถาม ทำไมหน่วยงานภาครัฐมีตั้งหลายหน่วยงาน ไม่ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนนำเข้า ปล่อยมาแบบนี้ได้อย่างไร พ่อค้าแม่ค้าเองก็ไม่กล้าเชียร์ให้ลูกค้าซื้อได้เต็มปากเต็มคำ เพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับลูกค้าอยู่เหมือนกัน
อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์กินองุ่นไชน์มัสกัตโชว์ และบอกว่าสารตกค้างในองุ่นไชน์มัสกัตโดนปั่นกระแสให้น่ากลัวเกินจริง เพราะสารเคมีตกค้างพบได้ในพืชผักผลไม้ที่เพาะปลูกทั่วไป (ไม่ใช่เกษตรอินทรีย์) เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ห้ามเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
ก่อนกินควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง โดยการล้างน้ำไหลผ่านเยอะ ๆ หรือนำไปแช่ในสารละลายเบกกิงโซดา ก่อนจะล้างออกอีกครั้งเพื่อกำจัดสารเคมีตกค้างออกให้มากที่สุด โชว์ทั้งภาพล้างองุ่น ภาพกิน และภาพสุดท้ายเหลือองุ่น 1 ลูก
