ทนาย โร่ขึ้นโรงพักตามหาเด็กหญิง 2 ขวบ ทายาทเสี่ยเจ้าของรีสอร์ต

ทนาย โร่ขึ้นโรงพักตามหาเด็กหญิง 2 ขวบ ทายาทเสี่ยเจ้าของรีสอร์ต

View icon 80
วันที่ 28 ต.ค. 2567 | 15.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ทนายดังจังหวัดอุดรธานี โร่ขึ้นโรงพัก ตามหาเด็กหญิง 2 ขวบ ทายาทเสี่ยหนองคาย เพื่อรับเงิน 3.6 แสนบาท หลังพ่อปลิดชีพเสียชีวิตทั้งครอบครัว รวม 4 ศพ คาบ้านพัก และทิ้งลูกสาวเอาไว้เพียงลำพัง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายชัยรัตน์ โสดา อายุ 66 ปี ทนายความชื่อดังเมืองอุดรธานี ได้นำเอกสาร และหลักฐานเข้าบันทึกประจำวันต่อ พ.ต.ท.เรืองยศ ภูดานุ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อตามหาทายาท หรือผู้จัดการมรดกของนายนพดล อายุ 55 ปี เจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย หลังก่อเหตุฆ่ายกครัวภรรยา ลูกสาว ก่อนจะปลิดชีพตัวเองหนีผิด รวม 4 คน เหตุเกิดที่ จ.ขอนแก่น  เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา

ซึ่งการเข้าแจ้งความครั้งนี้ เพื่อใช้ช่วยตามหาทายาทของนายนพดล ให้มารับเงินจากคดีที่ตัวเองเป็นทนายอยู่ ซึ่งจำเลยได้ชดใช้หนี้ในส่วนของนายนพดล จำนวน 366,774 บาท โดยทราบจากเนื้อข่าวเพียงว่า มีลูกสาวของนายนพดล รอดชีวิตเพียงคนเดียวในเหตุการณ์ จึงอยากให้ช่วยประสานผู้ปกครองของเด็กหญิงรายนี้ มาพิสูจน์ทราบและรับเงินในส่วนนี้ไป

ด้านพ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เชิญ นายชัยรัตน์ โสดา ทนายความ เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม เบื้องต้นได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง สภ.มัญจาคีรี เพื่อข้อมูลญาติจากคดีนี้ แต่ยังต้องใช้เวลาประสานตามหาญาติอีกสักระยะ เพื่อประสานให้ได้ข้อชัดเจนเรื่องการรับรองบุตร ระหว่างเด็กหญิงรายนี้ และนายนพดลเสี่ยหนองคาย ผู้เป็นพ่อ จะได้เป็นแนวทางในการดำเนินการตามกฎหมาย และมอบเงินให้เด็กหญิงรายนี้ ผ่านญาติหรือผู้จัดการมรดก ที่เป็นผู้ปกครองเด็กในปัจจุบัน

นายชัยรัตน์ โสดา ทนายความ เปิดเผยว่า ตนรับมอบอำนาจจากนางสาวอัมพิกา อดีตภรรยานายนพดล เป็นโจทย์ยื่นฟ้องจำเลย คดีฟ้องร้องล้มละลาย จากเรื่องการผิดสัญญาในธุรกิจเฟรนไชส์ร้านชานมไข่มุก ต่อศาลล้มละลายกลาง ปรากฏตามสำเนาคำคำฟ้อง ศาลล้มละลายกลางได้ให้โอกาสจำเลยผ่อนชำระหนี้โจทก์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งเงินที่นางสาวอัมพิกา จะได้รับเป็นจำนวน 979,463 บาท ซึ่งนายนพดลและนางสาวอัมพิกา ได้ตกลงด้วยวาจาจะจ่ายเป็นค่าทนายความ 20 % ของจำนวนทุนทรัพย์ คิดเป็นเงิน 195,887 บาท และค่าใช้จ่ายในคดีอีก 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 245,887 บาท “ส่วนที่เหลือจำนวน 733,549 บาท ตกเป็นของนางสาวอัมพิกา และนายนพดล คนนละครึ่ง ตกคนละ 366,774 บาท ในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมเมื่อหักค่าธรรมเนียนศาลที่นายนพดล สำรองจ่ายไป 100,000 บาท นางสาวอัมพิกา คงได้รับเพียง 266,774 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 นายนพดลได้ฆ่าตัวตาย จึงมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะได้ประกาศทาทายาท หรือผู้จัดการมรดกนายนพดล เพื่อติดต่อขอรับเงินจำนวนดังกล่าว เมื่อได้รับเงินจากจำเลยครบถ้วนแล้ว โดยมีกำหนดเดินทางไปดำเนินการที่ศาลล้มละลายกลาง กทม. วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 หากติดต่อญาติได้ก่อนก็สามารถเดินทางไปพร้อมกันได้เลย หรือจะประสานมาที่ตน เพื่อรับมอบอำนาจให้ตนไปแทนก็ได้ เรื่องนี้ตนยินดี เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเด็ก เป็นการทำบุญใหญ่ในครั้งนี้  (นายชัยรัตน์ โสดา ทนายความ เบอร์โทร 083-2874224)