ไอคอน ระดมทนายความเกือบ 20 ชีวิตสู้คดี เตรียมแจ้งให้ตำรวจออกหมายเรียกตัวแทนอีกกว่า 2.8 แสนคนมาให้ข้อมูล

ไอคอน ระดมทนายความเกือบ 20 ชีวิตสู้คดี เตรียมแจ้งให้ตำรวจออกหมายเรียกตัวแทนอีกกว่า 2.8 แสนคนมาให้ข้อมูล

View icon 44
วันที่ 30 ต.ค. 2567 | 16.41 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดิไอคอน ระดมทนายความเกือบ 20 ชีวิตสู้คดี เตรียมแจ้งให้ตำรวจออกหมายเรียกตัวแทนอีกกว่า 2.8 แสนคนมาให้ข้อมูล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือความผิดของผู้ต้องหา เพราะในขณะนี้มีการพิสูจน์แต่ความผิด ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ว่าบริษัทประกอบธุรกิจถูกต้องหรือไม่

30 ตุลาคม 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้ต้องหาคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางเข้าพบบอสพอล ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยระบุว่า ขณะนี้ทีมทนายของดิไอคอนมีทั้งหมด 5 ทีม ทนายเกือบ 20 คนที่ร่วมกันทำคดี ในวันนี้เข้าไปเยี่ยมบอสพอล เพื่ออัปเดตงาน หลังจากได้มีการประชุมกันอย่างหนักเมื่อวานนี้ ขณะนี้มีผู้มาแจ้งความ ประมาณ 9,200 คน ตนเองได้หลักฐานสำคัญ และเตรียมแจ้งความตัวแทนเก่าท่านหนึ่ง หลังจากวางแพตเทิร์นไว้ให้ผู้ที่เข้าไปแจ้งความส่วนหนึ่งว่าต้องให้ปากคำกับตำรวจไปในทิศทางไหน เช่น

"ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา , โยนความผิดให้แม่ทีมทั้งหมด , แม่ทีมปิดการขายเอง , เวลาแจ้งความให้แจ้งเกี่ยวกับบริษัท , บริษัทโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง , ลักษณะเป็นการชี้นำ , นำรถหรูบ้านหรูมาเป็นตัวชวนเชื่อว่าเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้แบบนี้ และเปิดบิลเพราะเชื่อมั่นในบอสพอล เป็นต้น"

ข้อความทั้งหมดนี้ คือการกำหนดประเด็นให้บรรดาตัวแทนเข้าไปแจ้งความ แล้วให้การในลักษณะนี้ โดยไม่ได้เป็นการแจ้งความตามความเป็นจริงของแต่ละท่าน โดยมีมูลนิธิหนึ่งที่นำแพตเทิร์นการให้ปากคำของทีมทนาย ที่ระบุชัดเจนว่ามาจาก สำนักงานกฎหมายทนายชื่อดัง แล้วระบุในไลน์กลุ่มว่า เวลาให้ปากคำกับตำรวจ ก็จะให้ปากคำเป็นแพตเทิร์น เรื่องนี้ตนเองในฐานะทนายความของดิไอคอน ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองปราบ ตรวจสอบคำให้การของพยานทุกคน ว่ามีการให้การลักษณะในรูปแบบเดียวกันกี่คน จากจำนวนกว่า 9,000 คน ตนเองเชื่อว่าต้องมีกลุ่มใหญ่ที่ให้การลักษณะทำนองเดียวกัน หากพบว่า ผู้เสียหายแจ้งความเป็นแพตเทิร์นเดียวกันอยากให้ตำรวจเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำใหม่

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนท่านใดที่ให้ปากคำไว้ในทำนองแพตเทิร์น ถ้าความจริงไม่เป็นไปตามนั้น ขอให้กลับไปแก้ไขให้ถูกต้องตามความเป็นจริง การให้ปากคำตามที่มีการชี้นำให้แจ้งความ จะถือเป็นการแจ้งความเท็จและเป็นการให้การเท็จ และทำให้คนคนหนึ่งที่ยังไม่รู้ว่าผิดหรือเขาบริสุทธิ์ ต้องไปถูกขังอยู่ในเรือนจำ เรื่องนี้ไม่แฟร์

เรื่องของกระแสข่าวที่ว่าแม่ขายทยอยถอนแจ้งความ ซึ่งตนเองทราบว่า ตัวแทนขายของดิไอคอนที่ไปแจ้งความไว้ แล้วติดต่อขอถอนแจ้งความหลักร้อยคน และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการแจ้งความตามแพตเทิร์น ซึ่งตัวแทนขาย บางคนรู้อยู่แก่ใจว่า บริษัทไม่ได้ทำแชร์ลูกโซ่ ไม่ได้ฉ้อโกง มีสินค้าขายตลอดเวลา เพียงแต่ว่าความเสียหายเกิดจากการที่เขาขายของไม่ได้ ไม่ได้เกิดความเสียหายจากการที่ซื้อสินค้ามาขาย และสินค้าของดิไอคอน มีอย. สินค้ามีมาตรฐาน

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แม่ขายที่ไปถอนแจ้งความ เพราะกังวลว่ากลัวถูกดำเนินคดีจริงหรือไม่ ทนายความบอสพอล ระบุว่า ตนเองทำคดีตามความเป็นจริง และใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเท่าที่มีอยู่ และใช้ได้ เพราะฉะนั้น ตัวเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าตอนที่เป็นคนชักชวนคนมาเปิดบิลไหม และเขารู้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นจากอะไร ความเสียหายเกิดขึ้นจากการขายของไม่ได้ หรือ เสียหายเพราะอะไร และการมาแจ้งความ ต้องการปัดภาระตัวเองจริงหรือไม่ ซึ่งมีตัวแทนบางคน ที่ต้องการลงบันทึกประจำวันเฉยๆ แต่ให้เป็นการไปแจ้งเป็นผู้เสียหาย ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ตนเองก็มีอยู่เช่นกัน โดยมีการบอกเล่าจากตัวแทนที่เคยไปแจ้งความ และอยากถอนแจ้งความก็ไม่สามารถถอนแจ้งความได้ "ตนเองอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เปิดช่องสำหรับถอนแจ้งความ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มาก"

เรื่องการประกันตัวบอส จนถึงขณะนี้ เหล่าบอสยังไม่ได้แยกแดน ยังอยู่ด้วยกัน และจากการปรึกษากันมองว่า หากอยู่ข้างนอกอาจจะไม่สะดวกหลายอย่าง จึงจะใช้กำแพงเรือนจำ เป็นฐานที่มั่นในการต่อสู้คดีอยู่ สำหรับแนวทางการต่อสู้คดี คือ พยานที่เป็นตัวแทน และยังทำธุรกิจอยู่ ซึ่งตัวแทนเหล่านี้ได้รับความเสียหายจากการทำธุรกิจ เพราะมีคดีนี้เกิดขึ้นกระแสสังคมรุนแรงมาก กลุ่มคนกลุ่มนี้ ยังทำธุรกิจได้อยู่ ทีมทนายก็จะพากลุ่มนี้มาให้ปากคำรวบรวมได้มากกว่า 2,000 คน และอีก 208,000 คน คือ คนที่ยังไม่ได้มาแจ้งความ และยังติดต่อไม่ได้ จึงจะขอให้ตำรวจออกใบเรียก มาสอบให้หมดทั้ง 208,000 คน ส่วนกลุ่ม 9,200 คน ที่มาแจ้งคดี ใครประสงค์ที่จะถอนแจ้งความ ให้รีบติดต่อตำรวจในทุกๆพื้นที่ มาให้ปากคำกับตำรวจว่าที่ให้ปากคำเป็นแพตเทิร์นไป จะเปลี่ยนให้ถูกต้องอย่างไร จะได้เป็นประโยชน์ กับกระบวนการยุติธรรมว่า

หลังจากนี้ถ้าหาก DSI รับเป็นคดีพิเศษ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่เตรียมสอบปากคำพยานของดิไอคอนทั้งหมด ทั้งที่สามารถติดต่อมาได้มากกว่า 2,000 คน พยานที่ยังติดต่อไม่ได้ 208,000 คน และอีก 9,200 บาทที่จะให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งรวมทั้งหมดที่ต้องสอบปากคำประมาณ 3 แสนคน และต้องสอบปากคำให้หมด เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์หรือความผิดของผู้ต้องหา เพราะในขณะนี้มีการพิสูจน์แต่ความผิด ยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ตนเองจึงนำความบริสุทธิ์มาให้พิสูจน์แล้ว ว่าบริษัท ประกอบธุรกิจถูกต้องหรือไม่อย่างไร