โคราชส่อวิกฤต เเล้งหนักปีนี้ เขื่อน-อ่างเก็บน้ำเหลือน้ำต้นทุนน้อย ขอเกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรัง เหลือน้ำไว้ใช้ผลิตประปาเป็นหลัก
วันนี้ (4 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้นำคณะตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา โดยอ่างเก็บน้ำลำแชะเป็น 1 ใน 4 อ่างเก็บน้ำหลักของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นหนึ่งในอ่างเก็บน้ำที่มีศักยภาพในการสำรองน้ำเพื่อสนับสนุนระบบประปาของการประปาส่วนภูมิภาคนครราชสีมา และการประปาภายในเขตเทศบาลนครราชสีมา ซึ่งการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในครั้งนี้ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังจะมาถึง หลังจากพบว่าปีนี้ปริมาณน้ำภายในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา มีน้ำต้นทุนเก็บกักน้อยกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา จึงต้องวางแผนจัดการน้ำล่วงหน้าอย่างรอบคอบมากขึ้น โดยล่าสุด ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำลำแชะ อยู่ที่ 153.6 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น จากความจุทั้งหมดที่ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุ
นายสุรสีห์ ระบุว่า พื้นที่จังหวัดนครราชสีมาประมาณ 10 อำเภอ ที่มีความเสี่ยงประสบปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นชุมชนหนาแน่น อย่างเช่น เขตเทศบาลนครนครราชสีมาและพื้นที่รอบนอก ในขณะที่ปริมาณน้ำภายในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำสำคัญอยู่ในเกณฑ์ต่ำมาก ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องมีการวางแผนการใช้น้ำอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด
ด้านนายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ในฐานะรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำและแหล่งน้ำดิบ ทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำที่ต้องเฝ้าระวัง และวางแผนการจัดการน้ำอย่างเข้มข้น โดยภาพรวมมีปริมาณน้ำอยู่ประมาณร้อยละ 55 อย่างเช่น อ่างเก็บน้ำลำตะคอง ตอนนี้มีปริมาณน้ำภายในอ่างเพียงร้อยละ 33 แต่เป็นน้ำใช้การได้เพียงร้อยละ 28 เท่านั้น จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือให้เกษตรกรทั่วทั้งจังหวัด งดการปลูกข้าวนาปรังทั้งหมด เพื่อสงวนน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคและบริโภคเป็นหลัก และให้หันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่ผลผลิตจะขาดน้ำและได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง