ช่วยเหลือมาตลอด จะรักษาให้ดีที่สุด สสจ.นราธิวาสเผยเคสสาวร้องมูลนิธิปวีณาฯ เข็มหล่นในช่องคลอด 18 ปี ยังผ่าตัดออกไม่ได้เพราะเข็มเคลื่อนตัวอยู่ตลอด มอบเงินเยียวยาเบื้องต้น 1 แสน จัดรถรับส่งมา รพ.ตลอดการรักษา
ความคืบหน้ากรณี หญิงชาวจังหวัดนราธิวาส เข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ปมพยาบาลทำเข็มหล่นในช่องคลอด ขณะเย็บแผลคลอดลูก เมื่อ 18 ปีก่อน ปัจจุบันยังผ่าตัดไม่ได้ ล่าสุดวันนี้ ( 5 พ.ย.67) น.ส.สาลินี วงศ์ทอง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่เข้าเยี่ยม พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน
น.ส.สารีปะห์ อายุ 36 ปี เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 18 ปีที่ก่อน ตนได้คลอดลูกคนแรก ด้วยวิธีผ่าคลอดที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ระหว่างเย็บแผลเจ้าหน้าที่ทำเข็มหล่นไปในช่องคลอด แต่ไม่สามารถนำเข็มออกมาได้ ทำให้มีอาการเจ็บบริเวณท้องน้อยอยู่เป็นประจำ และเมื่อเดือน เม.ย.67 มีอาการปวดจนหมดสติ จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ โดยแพทย์ได้มีการเอกซเรย์พบว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด จึงส่งตัวเพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา 2 ครั้ง แต่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เนื่องจากเข็มมีการเคลื่อนตัวอยู่ตลอด หมอนัดอีกครั้งในเดือน ธ.ค.67 แม้จะใช้สิทธิบัตรทอง แต่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบกับครอบครัวฐานะยากจนจึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ
ภายหลังสอบถามข้อเท็จจริงเบื้องต้น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พม.จ.) นราธิวาส ได้ให้ความช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคม กรณีฉุกเฉิน และเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ให้กับผู้ประสบปัญหาและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
ด้าน นพ.ถนัด อาวารุลหัก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า เมื่อปี 66 ผู้ป่วยคนนี้ได้เข้ามารักษาที่โรงพยาบาล ด้วยอาการปวดท้อง โดยเอกซเรย์และอัลตราซาวนด์พบว่ามีเข็มอยู่ในช่องคลอด จึงได้ส่งตัวไปรักษายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
เคสนี้ โรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้การดูแลมาตลอด โดยเมื่อเดือน เม.ย.67 ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรณีได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล เป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมนี้โรงพยาบาลเจาะไอร้อง ได้สนับสนุนยานพาหนะในการเดินทางไปรับการรักษา (ตลอดการรักษา) ไปเยี่ยมบ้านให้กำลังใจมาโดยตลอด ส่วนเรื่องการรักษาทางโรงพยาบาลจะเร่งดำเนินการให้อย่างดีที่สุดเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ