ปมรับแจ้งความเงิน 39 ล้าน น.1 เซ็นตั้งสอบ ผกก.บางซื่อ

ปมรับแจ้งความเงิน 39 ล้าน น.1 เซ็นตั้งสอบ ผกก.บางซื่อ

View icon 136
วันที่ 8 พ.ย. 2567 | 16.19 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เงิน 39 ล้าน น.1 เซ็นตั้งสอบข้อเท็จจริง ผกก.บางซื่อ ปมรับแจ้งความเมียคนสนิททนายตั้มแจ้งถูกดูดเงินบิทคอยน์ 2.2 ล้าน เพราะโอนเงินไปให้สแกมเมอร์อ้างเป็นดาราจีน จนเป็นที่มาให้พี่อ้อยโอนเงินคืนเพื่อรับผิดชอบ 39 ล้านบาท

ช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ย.67) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้ลงนามในหนังสือเลขที่ 0015/437 ลงวันที่ 8 พ.ย. 67 มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผู้กำกับการ สน.บางซื่อ หลังจากที่ถูกตำรวจกองปราบปรามเชิญตัวไปให้ข้อมูล กรณีเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 66  ได้มีผู้เสียหาย คือ น.ส.สารินี อายุ 30 ปี ภรรยาของนายนุ ซึ่งเป็นคนสนิทของทนายตั้ม หรือนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ไปลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สน.บางซื่อ ว่าถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ เพราะโอนเงินไปให้สแกมเมอร์ที่อ้างเป็นดาราจีนตามที่ทนายตั้ม อ้างว่านางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย วานให้โอนเงินเป็นสกุลบิทคอยน์

ทั้งนี้ในรายละเอียดบันทึกประจำวันระบุว่า  น.ส.สารินี มีกระเป๋าเงินออนไลน์ชื่อบัญชีหนึ่งใน Gmail และโอนเงินสกุลบิทคอยน์ให้กับบุคคลไม่ทราบชื่อสกุล โดยใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ดบัญชีหนึ่ง จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2,276,400 บาท หลังจากนั้น บัญชีที่เชื่อมต่อกับ Gmail ของ น.ส.สารินี รวมถึงแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินออนไลน์ ถูกระงับ ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย แต่ทนายตั้มกับไปแจ้งเจ๊อ้อย ว่าถูกดูดเงินจากกระเป๋าดิจิทัลกว่า 39 ล้านบาท จนเป็นที่มาทำให้พี่อ้อยโอนเงินมาคืนเพื่อรับผิดชอบ โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.สารินี จำนวน 39 ล้านบาท ในวันที่ 25 พ.ค.66

ขณะเดียวกัน ตำรวจกองปราบปรามชุดคลี่คลายคดีของเจ๊อ้อย พบข้อพิรุธหลายอย่างในการแจ้งความของผู้เสียหาย และรวมถึงมีข้อสงสัยในการรับแจ้งความของ ผกก.สน.บางซื่อ จึงได้มีการเชิญตัว พ.ต.อ.ภูวดล มาให้ถ้อยคำในข้อสงสัยต่าง ๆ จนเป็นเหตุให้ พล.ต.ท.ธิติ สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผกก.สน.บางซื่อ ดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง