สาวใหญ่วัย 48 ปี ตกงาน ไม่มีเงินใช้ เลยผันตัวเป็นโจรชิงเงินจากสาว อายุ 33 ปี หน้าตู้ ATM แต่งานนี้โดนสู้กลับจนโดนจับตัวส่งตำรวจ
เมื่อเวลา 10 .00 น.วันที่ 9 พ.ย.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์หน้าธนาคารริมถนนประชาธิปไตยห่างโรงพักประมาณ 100 เมตร จึงประสานสายตรวจและจราจร เข้าตรวจสอบเมื่อไปถึงพบว่าคนร้ายถูกชาวบ้านพลเมืองดีคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว ที่เกิดเหตุพบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทมีรอยฉีกขาด 1 ใบและมีดปอกผลไม้มีด้ามและปลอกยาวประมาณ 5 นิ้วตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และคุมตัวผู้ก่อเหตุและเชิญผู้เสียหายไปสอบปากคำต่อที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
น.ส.พัชรี อายุ 33ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นำเงินสดจำนวน 5,000 บาท มาฝากเข้าตู้ฝากเงินสดให้แม่ ขณะกำลังรอรหัส OTP และหมายเลขบัญชีธนาคารจากแม่โดยตนได้วีดีโอคอลคุยอยู่ในสายกับแม่ และวางเงินสดไว้บนตู้ ATM ที่กำลังจะฝาก จู่ๆ ก็มีคนเอาอะไรมาทุบที่หลังตนเสียงดังอึ๊กจนหัวคะมำ จึงหันกลับมาดูก็พบมีผู้หญิงวัยกลางคนร่างท้วมคว้าเงินที่วางบนตู้และกำลังจะวิ่งหนีตนเห็นเป็นผู้หญิงจึงไม่ยอม ได้คว้าแขนผู้ก่อเหตุเอาไว้และพยายามกระชากหมวกกันน็อกของคนร้ายออก จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันออกไปที่บนถนน ระหว่างนั้นตนก็ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โชคดีที่ระหว่างนั้นมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือตนจับตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ส่วนเงินของตนได้ตกกระจายอยู่บนพื้นถนนและมีอยู่ 1 ใบเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทที่แย่งกันคนร้ายถูกดึงขาดไป 1ใบ
น.ส.พัชรี เล่าต่อว่า ก่อนที่ตนจะเข้าไปฝากเงินก็สังเกตดูรอบๆ ตัวแล้วว่ามีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครจึงวางเงินไว้บนตู้ ATM คิดไม่ถึงว่าจะมีคนร้ายกล้ามาก่อเหตุ ซึ่งเป็นเวลากลางวันแสกๆ และอยู่ใกล้โรงพักแค่ 100 กว่าเมตร จึงอยากฝากเตือนถึงคนที่จะฝากเงินหรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดให้ระวังให้มาก มิฉะนั้นจะมีโอกาสโดนชิงทรัพย์แบบตนและอาจไม่โชคดีเหมือนตน และตนขอขอบคุณพลเมืองดีที่เข้ามาช่วย
สอบสวนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ น.ส.นคนนท์ อายุ 48 ปีให้การว่าตนเคยทำงานเป็นแม่บ้าน ตอนนี้กำลังตกงาน มีปัญหาเรื่องเงินไม่รู้จะหาเงินที่ไหนใช้ จึงขี่รถจักรยานยนต์ ไปตามถนนแบบเรื่อยเปื่อย แต่พอเห็นผู้เสียหายยืนอยู่หน้าตู้ATM เพียงลำพังจึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ตนไม่คิดทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา น.ส.นคนนท์ ผู้ก่อเหตุในข้อหาชิงทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่ง พ.ต.ต.นิคม ขุนสะอาดศรี พนักงานสอบสวน เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป